10 สุดยอด Divi ธีมและเลย์เอาต์แพ็ก (+2 สิ่งควรเลี่ยง) ใน 2024

คุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่า คุณสามารถใช้โปรแกรมสร้างธีม Divi ของ Elegant มาเพิ่มความเจ๋งให้กับธีม WordPress และเพื่อให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น โปรแกรมนี้สามารถแสดงผลได้ถึง 32 ภาษา ซึ่งรวมถึงภาษาไทยด้วย แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า เมื่อคุณชำระค่าบริการ Divi คุณจะได้เข้าใช้งานธีมที่มีให้พิเศษเฉพาะใน Divi เท่านั้นจำนวนมากกว่า 230 ธีม (หรือเลย์เอาต์แพ็ก)

นอกจากนี้ Divi ยังมีปลั๊กอินที่เป็นประโยชน์มากมาย ทั้งยังมีธีมหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกใช้เป็นจำนวนมากอีกด้วย ตั้งแต่เลย์เอาต์ที่ซับซ้อน เว็บไซต์แบบมีหน้าเดียว ไปจนถึง Divi child theme ที่ทรงพลัง แต่คำถามมีอยู่ว่า ธีมที่กล่าวมานี้ใช้ดีหรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมว่าจำนวนธีมมีให้เลือกมากมายจะด้อยในเรื่องของคุณภาพ และถ้าหากธีมเหล่านี้ใช้ดีจริง ๆ คุณควรเริ่มจากตรงไหน

เพื่อเป็นการช่วยคุณเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมนี้ ผมได้ทำการค้นคว้าคลังเลย์เอาต์และมาร์เกตเพลส ทดลองเลย์เอาต์แพ็ก และเลือกธีมที่ขึ้นชื่อของ Divi มาไว้ 12 ธีม ก็เป็นไปตามคาดว่าเหล่านักออกแบบธีมของ Divi นั้นทำออกมาได้ดี โดยน้อยครั้งที่จะพบช่องโหว่ แต่ผมก็ยังพบว่ามีอยู่เป็นบางธีมที่ยังคงคุณภาพได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ในรายการจัดอันดับนี้ ผมได้รวม Divi child theme ที่คุณอาจจะอยากลองเข้าไปด้วย และถ้าหากคุณไม่รู้ว่า “child theme” คืออะไรก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ! ให้คุณอ่านต่อไปและเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังในตอนที่คุณต้องใช้มันจริง ๆ

เลย์เอาต์แพ็ก Divi ที่ดีที่สุดสำหรับทุกกลุ่มหัวข้อ

Design Agency – ดีที่สุดสำหรับแฟ้มสะสมงานเชิงสร้างสรรค์ที่แสดงผลลัพธ์

เลย์เอาต์ที่สวยงาม ปุ่มกระตุ้นความสนใจ (calls to action) ที่มีเป้าหมายชัดเจน และการเคลื่อนไหวที่ละเอียดประณีตของ Design Agency (ดีไซน์ เอเจนซี) จะทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสร้างปฏิสัมพันธ์กับหน้าของคุณอย่างแน่นอน

หน้าหลักของธีมจะเป็นจอผ่าครึ่งอย่างเฉียบคมซึ่งจะเก็บเนื้อหาสำคัญเอาไว้ในกล่องข้อความสีเหลืองให้ดูสะดุดตา ผู้เยี่ยมชมจะได้รีบการเชื้อเชิญให้คลิก CTA ที่ปุ่ม Learn More (เรียนรู้เพิ่มเติม) แต่หากพวกเขาเลือกที่จะเลื่อนลง รูปภาพและข้อความต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาโดยให้ความรู้สึกถึงการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสบายตา

คุณสามารถแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมของคุณได้หน้าแฟ้มสะสมงานและหน้าโครงงานที่ธีมมีไว้ให้อีกสามหน้า และยังมีหน้ากรณีศึกษาที่จะมาช่วยให้คุณสามารถแสดงให้ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้าได้เห็นว่างานของคุณนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหนต่อลูกค้าที่เคยใช้บริการมาก่อน โดยทุกหน้าดังที่กล่าวมาจะมีเลย์เอาต์ที่เรียบง่ายและสะอาดตาจึงทำให้ผู้เข้าชมสามารถรับข้อมูลต่าง ๆ ที่มีได้อย่างง่ายดาย

ทั้งนี้ คุณยังสามารถใช้หน้า “บล็อก” และหน้า “เกี่ยวกับ” เพื่อแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้าได้

Coffee Shop – ตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับสายคาเฟ่และร้านกาแฟ

Coffee Shop (ร้านกาแฟ) มีคุณสมบัติทุกอย่างที่จำเป็นในการเปิดธุรกิจร้านกาแฟใหม่ หรือขยับขยายร้านที่มีอยู่เดิม หน้าที่เรียงต่อกันเข้าคู่กับภาพสวย ๆ ที่มีส่วนให้เติมข้อความที่คุณสามารถแบ่งปันความไม่เหมือนใครของร้านคุณ

ตลอดทั้งธีมจะมีปุ่ม CTA กระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมเข้าไปดูเมนูอาหารและเครื่องดื่มของคุณ เข้าดูร้านค้าออนไลน์ หรือลงทะเบียนเพื่อรับหนังสือพิมพ์ของคุณ และคุณยังสามารถใช้หน้า “บล็อก” หรือ “แนะนำ” เพื่อทำให้ลูกค้าหลงรักแบรนด์ของคุณได้ด้วย

แน่นอนว่า ธีม Coffee Shop นี้มาพร้อมร้านค้าบิวต์อินให้เสร็จสรรพ แต่คุณจะต้องใช้ WooCommerce เพื่อที่จะให้สามารถเข้าใช้ร้านค้าได้ หน้าร้านค้าดูมีระดับและหลากหลาย คุณจึงสามารถขายสินค้า เช่น การสมัครสมาชิกรับเมล็ดกาแฟ คำแนะนำการชงกาแฟ หรือสินค้าอื่น ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก และที่สำคัญ Divi ไม่เรียกเก็บค่าบริการเพิ่มสำหรับการใช้งานร้านค้าออนไลน์

Web Freelancer – ธีมสร้างสรรค์สำหรับเว็บไซต์มืออาชีพ หรือเอกสารรายละเอียดเชิงวิชาการเพื่อการสมัครงาน (CV)

หากมีเพียงสีสันฉูดฉาดอย่างเดียว เกรงว่าจะไม่เพียงพอในการทำให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นได้ ด้วยเหตุนี้ Web Freelancer (เว็บฟรีแลนซ์เซอร์) จึงมีภาพเปิดเว็บวางตามแนวทแยงมุม และดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครนี้เองจะทำให้คุณเป็นที่จดจำ

หน้าหลักและหน้า landing page (หน้าเพื่อการกระตุ้นให้ผู้คนเยี่ยมเข้ามาชมเว็บไซต์) มีหัวข้อและรายละเอียดซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือที่ดูสะอาดตา ส่วนด้านขวามือของหน้าทั้งสองจะเป็นพื้นที่ว่าง ซึ่งจะทำให้ผู้เยี่ยมชมพุ่งความสนใจไปที่เนื้อหาที่คุณนำเสนอ

ปุ่ม CTA ทั้งสองคือ Get a Free Quote (รับใบเสนอราคาฟรี) และ My Portfolio (แฟ้มสะสมงานของฉัน) ถูกจัดวางตำแหน่งอยู่ด้านล่างอย่างเหมาะเจาะ ซึ่งผู้เยี่ยมชมเว็บของคุณจะสามารถสังเกตเห็นได้แบบทันที

ในขณะเดียวกัน ทั้งหน้าหลักและหน้า landing page จะมีข้อมูลอธิบายเกี่ยวกับบริการของคุณและแสดงตัวอย่างชิ้นงานที่คุณเคยทำมาก่อน ซึ่งทำให้ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้าของคุณสามารถเห็นทักษาะความชำนาญของคุณได้โดยทันที แต่คุณยังสามารถใส่รายละเอียดลงลึกมากว่านี้ได้โดยการใช้หน้าแฟ้มสะสมงาน บริการ และกรณีศึกษาอีกด้วย

Pottery Studio – ธีมทั่วไปที่ดีที่สุดสำหรับศิลปิน สตูดิโอ และของสะสม

คุณสมบัติที่มีอยู่ใน Pottery Studio (สตูดิโอปั้นหม้อดินเผา) เช่น หน้าคลาสสอน และเวิร์กชอป ทำให้มันกลายเป็นธีมที่เหมาะสำหรับศิลปินผู้เป็นส่วนหนึ่งของงานสะสม หรือสตูดิโออย่างที่สุด อย่างไรก็ตาม ศิลปินเดี่ยวก็สามารถใช้ธีมนี้ได้อย่างสบายเช่นกัน ด้วยคลังรูปภาพและคุณสมบัติผู้ติดต่อของธีมที่ออกแบบมาอย่างดีนั่นเอง

หากคุณไม่จัดคลาสสอนแต่ต้องการแสดงการสาธิต หรือส่งเสริมการขายให้กับกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ คุณสามารถใช้งานปลั๊กอิน Modern Events Calendar (ปฏิทินกิจกรรมทันสมัย) เพื่อใช้ฟังก์ชั่นจัดตารางและเปิดให้ทำการจองได้

สำหรับใครที่ทำสตูดิโอหรืองานศิลปะของสะสม สามารถใช้หน้า Team (ทีม) เพื่อเขียนประวัติศิลปินและเรื่องราวประวัติการจัดแสดงชิ้นงานได้ และยังมีบล็อกเอาไว้ใช้แบ่งปันเทคนิคสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และรูปภาพต่าง ๆ อีกด้วย

ธีม Pottery Studio ยังมีร้านค้าแบบบิวต์อินในตัวให้คุณสามารถขายงานศิลปะได้ทางออนไลน์อีกด้วย ทั้งนี้ แบบฟอร์มสมัครสมาชิกจะช่วยคุณสร้างรายการผู้ติดต่อทางอีเมลเพื่อที่คุณจะสามารถส่งข้อมูลอัปเดตต่าง ๆ ให้กับนักสะสมและผู้ที่จะเข้ามาเรียนศิลปะเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ได้

Environmental Nonprofit – ดีที่สุดสำหรับการขยับขยายองค์กรเพื่อการกุศล

Whatever the focus of your nonprofit,ไม่ว่าคุณองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของคุณจะมุ่งไปที่เรื่องใดธีม Environmental Nonprofit (การไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสิ่งแวดล้อม) มีดีไซน์และคุณสมบัติที่จำเป็นเพื่อช่วยให้องค์กรของคุณสามารถดำรงอยู่ต่อได้ด้วยหัวข้อที่เด่นชัด รูปภาพที่ตรึงสายตา การเล่าเรื่องราวที่น่าติดตามเกี่ยวกับภารกิจของคุณ และปุ่มกระตุ้นการปฏิสัมพันธ์จำนวนมาก ทั้งยังมีวิดีโออยู่ทั่วเว็บที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมคลิกและเรียนรู้เพิ่มเติมอีกด้วย

ในแต่ละหน้าจะมีปุ่มให้บริจาคสีเขียวสว่างอยู่ 5 ปุ่ม ซึ่งแต่ละปุ่มจะมีจำนวนเงินบริจาคที่แตกต่างกันไปเพื่อที่ผู้บริจาคในทุกระดับการเงินสามารถให้บริจาคได้ และในหน้า Issues (ประเด็น) จะเป็นการอธิบายให้เห็นถึงงานการกุศลที่คุณทำในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อที่ผู้บริจาคจะสามารถรู้ได้ว่าเงินที่บริจาคไปนั้นถูกนำไปใช้ในทางที่ดี

ธีม Environmental Nonprofit มีหน้า landing page ที่คุณสามารถนำมาใช้เปิดการระดมทุนเพื่อกิจกรรมการกุศลครั้งต่อไป หรือกิจกรรมสำคัญอื่น ๆ ของคุณได้ และยังมีหน้าบล็อกจำนวนมากให้อีกด้วย เช่น ปฏิทินกิจกรรม แบบฟอร์มลงทะเบียนรับหนังสือพิมพ์ และรายชื่อผู้ให้ความร่วมมือและผู้สนับสนุนของคุณ

Food Recipes – พิมพ์เขียวสำหรับบล็อกหรือแบรนด์ด้านอาหารและความเป็นอยู่

ธีมเอนกประสงค์ Food Recipes (สูตรอาหาร) เหมาะสำหรับการทำบล็อกหรือนิตยสารออนไลน์… หรือเว็บไซต์สำหรับเชฟ นักเขียนด้านอาหาร หรือนักโภชนาการ ธีมนี้ใช้ได้เหมาะกับทุกแนวดังที่กล่าวมา และเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผมในการใช้สร้างบล็อกข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ

ภาพหน้าหลักแบบเต็มจอและปุ่ม CTA สีส้มสว่างจะกระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมเข้าไปดูเนื้อหาที่ยั่วยวนใจของคุณ ขณะที่หน้า landing page จะแสดงสูตรอาหารมากมายน่ารับประทาน พร้อมด้วยเคล็ดลับทางโภชนาการเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เยี่ยมชมและให้พวกเขาอยากเลื่อนลงดูเนื้อหาอื่น ๆ

หน้า “สูตรอาหาร” จะจัดการสูตรอาหารของคุณเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยแบ่งเป็นหวมดหมู่ต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้อ่านสามารถเรียกดูเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง หน้า “สูตรอาหาร” มีคุณสมบัติที่ให้คุณสามารถส่งเสริมเมนูอาหารพิเศษได้ด้วยการลงรูปภาพและวิดีโอกิจกรรมจำนวนมาก คุณสามารถอัปเดตหน้านี้ด้วยเนื้อหาเมนูใหม่ ๆ ที่คุณค้นพบเพื่อให้ผู้อื่นอยากกลับมาอ่านต่อเรื่อย ๆ

นอกจากนี้ธีม Food Recipes ยังให้คุณได้แชร์เนื้อหาไปยังสื่อโซเชียลได้อีกด้วย ผู้อ่านจึงสามารถเข้าร่วมชุมชน โพสต์ความคิดเห็น ให้คำติชม และแชร์โพสต์บล็อกลงในแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลต่าง ๆ ได้

Cosmetics Shop – แพ็กติดเทรนด์สำหรับร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์หรู

พาเลตต์สีที่ดูผ่อนคลายและดีไซน์ที่มีการรกระจายเนื้อหาของ Cosmetics Shop (ร้านเครื่องสำอางค์) เป็นการเลียนแบบร้านสไตล์บูติก ธีมนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับร้านค้าออนไลน์ที่ขายผลิตภัณฑ์ออแกนิกด้านความงามระดับไฮเอ็นด์ แต่หากคุณทำการปรับเปลี่ยนสี รูปภาพ และข้อความ ธีมจะใช้ได้กับทุกธุรกิจที่ขายสินค้าออนไลน์เลย

คุณจะเห็นปุ่ม Browse Products (เรียกดูสินค้า) ขนาดใหญ่อยู่ในทุกหน้า และเมื่อพูดถึงหน้าต่าง ๆ แล้วนั้น หากคุณกำลังคิดเปิดร้านใหม่ คุณจะต้องชอบหน้า landing page ที่ออกแบบมาอย่างสวยเก๋นี้อย่างแน่นอน โดยหน้านี้จะเน้นจุดขายหลักของร้านคุณ (ยกตัวอย่างเช่น “วัตถุดิบออกแกนิก” หรือ “การจัดส่วรวดเร็ว”) และมีลิงก์จำนวนมากที่นำผู้ชมเข้ามายังร้านของคุณ

หน้า Contact (ติดต่อ) มีความสั้นกระชับและสวยงาม ขณะที่หน้า About (เกี่ยวกับ) มีความยาวมากกว่า เพื่อให้คุณได้อธิบายเกี่ยวกับตัวตนของร้านค้าอย่างละเอียดให้แก่ลูกค้าที่มีข้อจำกัดในการเลือกซื้อเยอะ

หน้า Shop (ร้านค้า) เป็นระเบียบและสะอาดตาเหมือนกับอย่างอื่นของธีมนี้ หน้าร้านค้าจะขึ้นรายการสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกเท่านั้น โดยแสดงเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเรียบง่ายเพื่อที่ผู้เข้าชมจะได้ไม่ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่น ทั้งนี้ คุณสามารถนำหน้า Sales (ลดราคา) มาใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน หน้านี้มีความตรงประเด็นโดยจะบอกลูกค้าของคุณให้ทราบว่าพวกเขาสามารถประหยัดเงินไปได้เท่าไหร่หากซื้อสินค้าในหมวดนี้

Architecture Firm – ดีที่สุดสำหรับธุรกิจที่รับงานใหญ่ มีราคาแพง

Architecture Firm (บริษัทสถาปัตยกรรม) เป็นธีมอันดับต้น ๆ ที่ผมเลือกสำหรับธุรกิจที่ให้บริการออกแบบภายในอาคาร สถาปัตยกรรม หรือออกแบบภูมิทัศน์ (หรืองานสำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับอาคาร) ธีมนนี้มีความตรงไปตรงมาและเป็นองค์ประกอบเป็นกลุ่มก้อน แต่ไม่น่าเบื่อ

องค์ประกอบสีขาว ดำ เทา ฟ้อนต์อักษรที่ดูเป็นมืออาชีพ และเลย์เอาต์โดยรวมบ่งบอกถึงแนวทางการทำงานอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งเป็นสิ่งทำคัญในการทำให้ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้ารู้สึกไว้ใจให้คุณรับงานสำคัญ ขณะเดียวกัน คุณจะสามารถใช้รูปภาพแสดงความอัจฉริยะด้านการออกแบบของคุณได้ ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์มีความน่าติดตาม

เมื่อผู้เยี่ยมชมเว็บเลื่อนลงดูเนื้อหา จะมีการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนเข้ามาดึงความสนใจผู้ชมไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รายการโปรเจกต์ที่ทำก่อนหน้า ประเภทบริการของบริษัท และคุณวุฒิพร้อมความเชี่ยวชาญของทีมงาน

Virtual Conference – สดใสเด่นชัด เป็นแพ็กที่ดีที่สุดสำหรับกิจกรรมที่จัดทำขึ้นจริงและแบบเสมือน

ดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกร่าเริง สีสันสร้างความมีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหว และรูปทรงเลขาคณิตที่เรียบคมของธีม Virtual Conference (การประชุมเสมือน) ผสมผสานกันเพื่อสร้างความรู้สึกกระตือรือร้นและตื่นเต้น ปุ่ม CTA ที่ปรากฏอยู่ในทุกหน้าจะทำหน้าที่กระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม หรือลงทะเบียนเพื่ออ่านบล็อก

นักวางแผนกิจกรรมจะต้องถูกใจหน้าพร้อมเนื้อหาละเอียดสำหรับนักพูด ตารางกิจกรรม ค่าเข้าร่วม และผู้จัดเตรียมงานอย่างแน่นอน หน้าที่กล่าวมานี้ต่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีหน้าไหนที่ยาวเกินไป และต่างสื่อเนื้อหาสำคัญอย่างกระชับสละสลวย ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการโน้มน้าวผู้เยี่ยมชมที่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างรวดเร็ว

ผมชอบส่วนท้ายที่อยู่ตรงตำแหน่งด้านล่างของทุกหน้าเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ชมเลื่อนเคอร์เซอร์ไปวางบนส่วนท้าย ปุ่ม Register Today (ลงทะเบียนวันนี้) จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสว่าง และเมื่อคลิกลงไป ปุ่มจะนำทางไปยังหน้า Registration (ลงทะเบียน) และในขั้นตอนนี้ผู้ชมจะสามารถเลือกประเภทตั๋วเข้างานที่แตกต่างกันได้ (เช่น ตั๋วทุกงาน ตั๋วสำหรับวันเดียว หรือตั๋วนักเรียน)

และหากผู้เข้าเยี่ยมเว็บไซต์มีคำถาม ธีมยังมีหน้าแบบฟอร์มส่งอีเมล และลิงก์ช่องทางการติดต่อคุณทางสื่อโซเชียลด้วยเช่นกัน

เลย์เอาต์แพ็ก Divi ที่ไม่ได้ถูกนำรวมไว้รายการแนะนำของผม

Divi Painter (Divi จิตรกร) ควรจะมีความร่วมสมัยและให้ความรู้สึกสนุก แต่แม้ธีมจะมีทุกหน้าที่เว็บไซต์ต้องมีก็ตาม ดูเหมือนว่ามันยังไม่สามารถจับตรงประเด็นสำคัญ คือ ผู้สะสมภาพวาด ผู้ขาย และผู้ดูแล

ทำไมข้อความในธีม Divi Painter ถึงเข้ามาทับซ้อนรูปภาพงานศิลปะอยู่เรื่อย และหน้า landing page แบบผ่าครึ่งหน้านั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน หากหน้านี้ทำขึ้นมาเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับงานแสดงภาพวาดที่กำลังจะมีขึ้นเป็นหน้าแรกสุดที่ผู้ชมได้เห็น

อีกหนึ่งเลย์เอาต์แพ็กที่ขาดคุณสมบัติที่พึงมีตามแบบฉบับของ Divi คือ Event Home (อีเวนต์โฮม) ซึ่งดูเหมือนแพ็กนี้ทำออกมาโดยไม่ได้เจาะจงที่ธีมใด โดยขณะที่หน้าหลักและภาพที่ดูแปลกนั้นดูจะสมบูรณ์แบบต่อการเฉลิมฉลอง และงานที่จัดสำหรับผู้ได้รับเชิญเท่านั้น เช่น งานจบการศึกษา หรืองานแต่งงาน แต่หน้าอื่น ๆ ดูเหมือนจะออกแบบมาเพื่องานประชุมใหญ่

Divi Child Themes – คุณจำเป็นต้องใช้มันหรือเปล่า

คุณอาจจะเคยได้ยินมาว่าทุก ๆ เว็บไซต์ของ WordPress ต้องมี child theme รวมถึงผู้ที่สร้างเว็บด้วย Divi ด้วยเช่นกัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า child theme คืออะไร

เป็นธีมย่อยที่ดึงการตั้งค่าของตัวมันเองมาจาก “ธีมแม่” จากนั้นคุณจะสามารถทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหลักและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของมันได้ (พูดง่าย ๆ คือเปลี่ยนแนว) เมื่อคุณใส่การตั้งค่าแบบกำหนดเอง หรือใส่โค้ดเข้าไปใน child theme ของคุณ child theme จะสะท้อนแบบจากธีมแม่โดยอัตโนมัติ แต่โค้ดของธีมแม่จะอยู่อย่างเดิมโดยไม่ได้รับการแตะต้องใด ๆ ซึ่งทำให้คุณสบายใจได้ว่าจะไม่เสียการตั้งค่าแบบกำหนดเองไป หรือไปเจอปัญหาอื่น ๆ เมื่อมีการอัปเดตธีมแม่

คุณอาจจะเคยเข้าไปดู child theme แบบพรีเมียมในตลาดซื้อขาย Divi และไม่แน่ใจว่าคุณจำเป็นต้องใช้มันหรือเปล่า หากคุณแค่มองหา child theme ให้กับเว็บไซต์ Divi ที่คุณมีอยู่แล้ว คำตอบง่าย ๆ คือ คุณไม่จำเป็นต้องมี child theme ธีมพรีเมียมของ Divi เป็นแพ็กเกจเต็มชุด ที่มีทุกอย่างที่คุณต้องใช้สำหรับสร้างเว็บไซต์

การระมัดระวังนั้นเป็นเรื่องดีเสมอ แต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่อง child theme หากคุณใช้เครื่องมือแบบบิวต์อินของ Divi ในการกำหนดค่าธีม และที่จริงแล้วคุณยังสามารถทำการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับ CSS ในโปรแกรมสร้างเว็บ Divi ตัวกำหนดค่าธีม และการตั้งค่าธีมได้โดยไม่ต้องใช้ child theme เลย

อย่างไรก็ตาม คุณควรใช้ child theme หากคุณมีแผนจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงไฟล์ธีมเฉพาะ เช่น เทมเพลตหน้า หรือ functions.php หรือหากคุณมีแผนที่จะเพิ่มโค้ดกำหนดเองจำนวนมาก เช่น CSS หรือ JavaScript เข้าไปในไฟล์ธีม

แล้วผมจะแนะนำ child themes อันไหนบ้าง เรามาดูกันต่อไปด้านล่างนี้เลย!

Divi Photography eCommerce – Child Theme แฟ้มสะสมงานเอนกประสงค์

(DiVi ร้านค้าช่างถ่ายภาพออนไลน์) จาก Divi Space เป็นแพ็กเกจที่สมบูรณ์แบบ โดยมีคุณสมบัติทุกอย่างที่ช่างถ่ายภาพต้องใช้ในการสร้างตัวตนทางออนไลน์ แสดงและขายงานภาพถ่าย พร้อมทั้งทำการตลาดให้บริการของพวกเขาด้วย

คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้พื้นหลังเป็นสีสว่างหรือสีเข้ม จากนั้นจึงเลือกหนึ่งในสไตล์คลังรูปภาพ ซึ่งมีให้เลือกคือ general (แบบทั่วไป) justified (แบบจัดขอบเสมอกัน) simple (แบบเรียบง่าย) และ masonry (แบบก่ออิฐ) เพื่อจัดระเบียบแฟ้มสะสมงานของคุณ ทั้งนี้ คลังรูปภาพจะมีองค์ประกอบดีไซน์มากมายให้เลือกเพื่อดึงดูดใจผู้เยี่ยมชม เช่น เอฟเฟ็กต์โฮเวอร์ ภาพเลื่อน และภาพหมุนแสดงหลายภาพ

คุณจะสามารถมีเครื่องมือทุกอย่างที่ต้องใช้ในการขายภาพถ่าย และโปรโมทบริการถ่ายภาพของคุณได้ด้วยตัวนัดหมายการจองแบบบิวต์อิน และร้านค้าออนไลน์ และธีมนี้มีให้คุณแม้แต่หน้าสำหรับจัดคลาสถ่ายภาพ และแบบฟอร์มสมัครเป็นสมาชิก รวมถึงหนังสือพิมพ์ของคุณด้วย

Avanti – Child Theme อันทรงพลังเพื่อธุรกิจหลากหลายวัตถุประสงค์

Avanti (อฟันติ) สร้างขึ้นโดย Mark Hendriksen เป็นธีมที่มีอะไรหลากหลายอย่างรอมอบให้คุณ โดย child theme นี้มีดีไซน์หน้าหลักถึง 8 แบบที่คุณสามารถนำมาใช้กับกลุ่มเนื้อหาเฉพาะได้ถึงเจ็ดหัวข้อด้วยกัน

ผมชอบดีไซน์หน้าหลักธุรกิจของ Avanti มากที่สุด ผมชอบมาก ๆ ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถหาสิ่งที่ต้องการเจอได้ด้วยเพียงการเลื่อนหน้าหลักลงมา เช่น บริการที่มีให้ คำกล่าวจากลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับทีมงาน

ไม่เพียงเท่านั้น Avanti ยังมาพร้อมหน้าต่าง ๆ ที่ได้รับการออกแบบเป็นอย่างดีและมีประโยชน์ เช่น คำถามที่พบบ่อย และหน้าแสดงราคา โดยมากประเภทของหน้าจะมีตัวแปรต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น คุณสามารถเลือกหน้าแฟ้มสะสมงานให้เป็นเลย์เอาต์ 1 2, 3 หรือ 4 คอลัมน์ เลือกได้หน้าบล็อกได้หกแบบ และอื่น ๆ อีกมากมาย

คุณสมบัติของ Avanti ทำให้การสำรองการเข้ารับการปรึกษาฟรี การสำรวจราคา หรือเริ่มการสนทนาออนไลน์นั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า และจะมีปุ่ม call-to-action คอยกระตุ้นให้พวกเขาคลิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม ดูบล็อก หรือลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารใหม่ล่าสุกในทุก ๆ ย่างก้าว

Divi เหมาะสำหรับเว็บไซต์ของคุณหรือเปล่า

เมื่อคุณเลือก Divi ให้แก่เว็บไซต์ WordPress ของคุณแล้วนั้น คุณจะได้รับประโยชน์มากมาย แต่คุณก็จะถูกผูกติดอยู่กับระบบนิเวศน์นี้ด้วย หากคุณยกเลิกการเป็นสมาชิก คุณจะยังสามารถใช้ธีมที่คุณดาวน์โหลดเอาไว้แล้ว แต่คุณจะไม่ได้เข้ารับบริการด้านความช่วยเหลือทางเทคนิค หรืออัปเดตธีม และรวมไปถึงการอัปเดตด้านความปลอดภัยด้วย

ทางที่ดีที่สุดที่ผมจะแนะนำ คือให้คุณ เข้าดูเลย์เอาต์แพ็ก (โดยเฉพาะแพ็กที่อยู่ในบทวิจารณ์นี้) เพื่อดูว่ามีแพ็กที่เป็นไปตามความต้องการของคุณหรือไม่ แม้ว่า Divi จะมีธีมสำหรับร้านค้าออนไลน์ดี ๆ อยู่มากมาย แต่ก็ไม่เด่นเท่าด้านศิลปะ ดนตรี หรือการเขียนงานสร้างสรรค์

จะทำให้การออกแบบเว็บไซต์ WordPress ของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน และคุณสมบัติของมันนั้นตรงประเด็น อย่างไรก็ตาม หากคุณเพียงต้องการมีเว็บไซต์ธรรมดาที่ไม่ได้ทำธุรกิจสำคัญใด ๆ Divi อาจจะมีคุณสมบัติที่มากเกินความต้องการของคุณก็ได้

หากคุณไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการใช้งาน WordPress (หรือ Divi) คุณคงอยากเข้าดูบทวิจารณ์ โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 เพื่อหาตัวเลือกเพิ่มเติม

คำถามที่พบบ่อย

Divi ทำงานอย่างไร

โครงสร้างราคาของ Divi นั้นตรงไปตรงมา โดยคุณสามารถเลือกระหว่างการเป็นสมาชิกแบบหนึ่งปี หรือเป็นสมาชิกตลอดชีพ Divi ไม่มีแผนฟรี แต่ มีรับประกันคืนเงินหลังการใช้งานไปไม่เกิน 30 วัน

การเป็นสมาชิกจะให้คุณสามารถเข้าใช้งานทุกอย่างที่ Divi มีให้ กล่าวคือ ตัวสร้างเว็บแบบลากและวาง เลย์เอาต์แพ็กทั้งหมด และธีมพิเศษต่าง ๆ (ธีมขั้นสูงสำหรับนิตยสารและบล็อก) และปลั๊กอิน รวมไปถึงส่วนเสริมนับร้อย

ตราบใดที่การเป็นสมาชิกของคุณเปิดใช้งานอยู่ จะไม่มีขีดจำกัดจำนวนการใช้งานเลย์เอาต์แพ็ก หรือหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่จำนวนเว็บไซต์ที่คุณสามารถสร้างได้ การเป็นสมาชิก Divi ยังมีฝ่ายสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงที่ให้บริการทุกวัน และสามารถเข้ารับของฟรีจากนักออกแบบผู้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน Divi สิ่งที่คุณต้องทราบก็คือ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้านั้นไม่มีให้บริการในภาษาไทย แต่มีเพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะใช้ตัวแปลภาษาออนไลน์เพื่อจัดการกับคำขอคุณได้ในยามจำเป็น

แต่เมื่อคุณได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ Divi แล้ว คุณจะเหมือนกับโดนล็อกเข้ากับระบบนิเวศน์ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจ คุณอาจจะอยากใช้เวลาอ่าน บทวิจารณ์ Divi แบบเชิงลึก ของเรา

ธีมของ Divi ใช้ดีหรือไม่

ดีแน่นอน Divi ไม่ค่อยจะทำให้ผิดหวังเรื่องดีไซน์ และนอกจากจะเรื่องความดูดีแล้ว Divi theme มักจะมาพร้อมคุณสมบัติสำคัญและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่คุณต้องการด้วย

คลังไฟล์ของ Divi มี ตัวเลือกเลย์เอาต์แพ็กที่ครอบคลุมเว็บไซต์เกือบทุกรูปแบบ คุณสามารถเลือกใช้เลย์เอาต์แพ็กแบบเต็มชุด หน้าเลย์เอาต์เดียว หรือจับคู่ผสมหน้าเลย์เอาต์จากแพ็กต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และรูปภาพสวยเตะตาทั้งหมดมีให้คุณได้เอาไปใช้ฟรีทั้งสิ้น

Divi themes มีราคาอยู่ที่เท่าไหร่

หากคุณเป็นสมาชิก Divi คุณจะไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่าธีมการเป็นสมาชิกของคุณรวมทุกอย่างเอาไว้ให้คุณ ทุกเลย์เอาต์แพ็กในคลัง Divi และรวมถึงธีมนิตยสารพิเศษด้วย (คุณจะได้เห็นมันอยู่ใต้ “ผลิตภัณฑ์ Divi)

อย่างไรก็ตาม คุณจะยังคงต้องจ่ายค่าธีมของบุคคลที่สาม และส่วนเสริมที่อยู่ในตลาดซื้อขายของ Divi โดยราคาของธีมและส่วนเสริมเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับผู้สร้าง

แต่ขอให้คำนึงอยู่เสมอว่า แม่การเป็นสมาชิก Divi ของคุณจะมาพร้อมธีมจำนวนมาก คุณจะยังคงต้องจ่ายค่าโฮสต์เว็บไซต์ คุณสามารถเข้าไปดู คูปองล่าสุด (อัปเดตรายวัน) ของเราเพื่อประหยัดเงินค่าบริการโฮสต์แบรนด์โปรดของคุณ

child theme ของ Divi คืออะไร

child themes ของ Divi มีสองแบบ คือ child themes แบบว่างเปล่าที่ให้คุณสร้างเองด้วยปลั๊กอิน เช่น Divi Children และ premium Divi โดยนักออกแบบจากนอกองค์กร

child theme ของ Divi แบบว่างเปล่าหรือมาตรฐานมีตัวเลือกไฟล์หลักที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อการแก้ไขเว็บไซต์ Divi ได้อย่างปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้ PHP หรือ CSS

child themes แบบ Premium Divi เป็นในทางตรงกันข้าม โดยเป็น child theme จากนอกองค์กรเต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถหาได้ในตาลดซื้อขาย Divi โดยจะมีทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการสร้างเว็บไซต์ ดังนั้น หากคุณซื้อ child theme แบบพรีเมียม คุณจะไม่จำเป็นต้องใช้เลย์เอาต์แพ็กทั่วไป “ธีมแม่” ของธีมเหล่านี้เป็นธีม Divi ของแบรนด์เอง