10 บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดในปี [2025]

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งชั้นนำรายอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

พูดกันจริง ๆ แล้วรายการที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกก็ควรจะหยุดที่ 10 อันดับ แต่พวกเรารู้สึกว่าเว็บโฮสเหล่านี้สมควรได้รับการกล่าวถึงเนื่องจากพวกเขามีบริการที่โดดเด่น

ScalaHosting: ScalaHosting นั้นก็เป็นอีกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ดีมาก แต่พวกเราชอบแผน VPS ของมันมากกว่าแผนแบบแชร์โฮสติ้ง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้พวกเราเห็นว่า ScalaHosting นั้นมีความน่าสนใจที่ค่อนข้างจะจำกัดกว่า ScalaHosting นั้นเป็นตัวเลือกสำหรับ “ขั้นถัดไป” ที่ดีเมื่อเว็บไซต์ของคุณเริ่มจะใช้ทรัพยากรเกินกว่าที่ผู้ให้บริการแบบแชร์โฮสติ้งมีให้ และคุณก็ต้องการจะอัปเกรด นอกจากนี้มันก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน VPS รายใหม่ ๆ ด้วย เนื่องจากมันมีการตั้งค่าที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานเริ่มต้น

Kamatera: ในขณะที่พวกเราชอบ ScalaHosting สำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้นที่ต้องการจะอัปเกรด Kamatera นั้นจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานขั้นสูงเพราะว่าแผน Cloud VPS ของมันนั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการสำหรับใช้โฮสเว็บไซต์ขั้นพื้นฐานหรือคุณเองยังไม่ค่อยเก่งเรื่องการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ Kamatera ก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ บริการแบบ managed ที่เป็นส่วนขยายของมันนั้นก็มีราคาค่อนข้างแพงด้วย

FastComet: ถ้าคุณต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเอเชีย, โอเชียเนีย หรืออเมริกาใต้ในราคาที่ไม่แพงมาก FastComet ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ด้วยศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ โตเกียว มุมไบ และซิดนีย์ คุณก็จะมีตัวเลือกที่กว้างขวางในการเข้าถึงพื้นที่เหล่านี้ การทำงานในสหรัฐอเมริกาและยุโรปของ FastComet นั้นก็ไม่เลวเช่นกัน โดยมักจะโหลดเนื้อหาเสร็จภายในเวลา 2 วินาทีระหว่างการทดสอบของเรา

โฮสยอดนิยมที่ไม่ติดอันดับ

คงมีชื่อผู้ให้บริการรายใหญ่ ๆ อยู่บางรายที่คุณอาจจะเคยพบเห็น แต่ไม่ติดอันดับสิบรายการที่ดีที่สุดนี้ ในขณะที่บางรายนั้นสมควรไปติดอันดับ “10 โฮสที่แย่ที่สุด” ซึ่งสักวันเราอาจจะเขียนเกี่ยวกับบทความนั้น แต่อีกหลาย ๆ ตัวนั้นก็เพียงแค่ยังให้บริการได้ไม่ดีพอเท่านั้นเอง

Namecheap – Namecheap นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับซื้อขายและจดทะเบียนชื่อโดเมน แต่คุณอาจจะไม่ทราบว่า NameCheap นั้นมีบริการแชร์โฮสติ้งที่คุณภาพดีใช้ได้ให้บริการอีกด้วย ถึงอย่างนั้นก็ตาม มันยังไม่ดีพอที่จะติดสิบอันดับในรายการนี้ และมันก็จะดีกว่าสำหรับคุณเองถ้าคุณเลือกใช้บริการจาก 10 อันดับแรกหรือจาก ตัวเลือกชั้นนำอื่นๆที่เหมาะมากกว่า Namecheap

Bluehost: พวกเราได้ทำการทดสอบบริการโฮสติ้งของ Bluehost และก็พบว่ามันถือว่าดีใช้ได้เลย อันที่จริง Bluehost นั้นจะเป็นตัวเลือกโฮสราคาถูกที่ดีมากสำหรับผู้ที่กำลังจะเป็นเจ้าของเว็บไซต์เว็บแรก เนื่องจากแพลตฟอร์มของมันไม่ค่อยซับซ้อนและก็ใช้งานง่าย แผนของ Bluehost นั้นยังมีส่วนลดให้เยอะสำหรับการใช้งานช่วงแรกด้วย และราคาของมันก็ถูกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวเลือกขั้นเริ่มต้นสำหรับการโฮสติ้งแบบแชร์และ WordPress

GoDaddy: มันเป็นเว็บโฮสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล แต่ใครจะไปสนเรื่องนั้นล่ะ? เราได้ลองสมัครใช้งานเพื่อที่จะดูว่ามันสมควรติดอันดับรายการนี้หรือไม่ และหลังจากที่ทดสอบมันมาเป็นเวลาสามเดือน สิ่งที่พวกเราพบก็คือบริการที่มีคุณภาพไม่ดีนัก และก็มาในราคาที่ไม่คุ้มค่าต่อประสิทธิภาพที่ได้รับเลย บริการที่มีคุณภาพไม่ดีนักที่เราพูดถึงนี้คือความเร็วในการโหลดที่ต่ำ (3 วินาทีขึ้นไปก็มากพอแล้วที่ผู้เข้าชมจะกดออกจากหน้าของคุณ) นอกจากนี้ยังมีปัญหา uptime ที่เชื่อถือไม่ได้ และฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่น่าผิดหวังพอ ๆ กัน คุณสามารถได้รับบริการที่ดีกว่ามากจากโฮสรายอื่น ๆ

HostPapa: ในอดีตเราเคยชอบ HostPapa และก็เห็นว่ามันเป็นโฮสที่โดยทั่วไปแล้วเราสามารถไว้วางใจได้ เราสมัครใช้งานมันอีกครั้งเพื่อดูว่าในปัจจุบันมันเป็นอย่างไร และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเช่นกัน ความเร็วนั้นค่อนข้างน่าผิดหวัง คุณสมบัติก็มีไม่ครบถ้วน และก็ไม่ค่อยคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ

การเปรียบเทียบเว็บโฮสทั่วโลก: พวกเราทำอย่างไร

เราพยายามจะเชื่อใจ ตอนที่ใครบางคนบอกกับเราว่าเขาสามารถทำอะไรบางอย่างได้ เราก็อยากจะเชื่อเขา แต่ในเมื่อโฮสทุกรายต่างก็กล่าวอ้างว่าตัวเองนั้นดีที่สุด แบบนี้จะให้เชื่อใจพวกเขาได้อย่างไร?

โฮสบางรายใช้คำว่า “เร็วสุดขีด” แต่ในความเป็นจริงความเร็วในการโหลดของมันนั้นใช้เวลาถึงสามวินาทีสำหรับการโหลดหน้าแบบพื้นฐาน เช่นเดียวกัน การกล่าวอ้างว่า “มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าโดยผู้เชี่ยวชาญ 24/7” นั้นก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ เนื่องจากทีมสนับสนุนลูกค้านั้นมีให้บริการแค่บางช่วงและก็อาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นจริง

ทางเดียวที่จะรู้ข้อมูลจริงเกี่ยวกับบริการโฮสติ้งเหล่านี้ก็คือการทดลองใช้มันจริง ๆ และพวกเราจึงได้เริ่มการเดินทางเพื่อหาคำตอบของคำถามที่สำคัญที่สุด:

บริการเว็บโฮสติ้งรายใดที่ดีที่สุดจริง ๆ ในปัจจุบัน

กระบวนการนี้ไม่ง่ายเลย เนื่องจากมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เราแยกรายละเอียดของการวิเคราะห์เป็นสามคำถามเล็ก ๆ:

1. เว็บโฮสรายใดได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในปัจจุบัน?
2. เรามองหาอะไรในบริการโฮสติ้งที่มีคุณภาพ?
3. หลังจากที่สมัครใช้งานและทำการทดสอบบริการอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาดีขนาดไหนในแง่ของคุณสมบัติ ประสิทธิภาพ ความสะดวกในการใช้งาน ราคา และบริการสนับสนุนลูกค้า?

เรารู้สึกยินดีที่จะได้รายงานว่าโครงการนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเราเองก็ค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ได้อยู่พอควร

ก่อนที่พวกเราจะเริ่ม เราขอแจ้งก่อนว่าพวกเราทำการโฮสเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลที่สหรัฐอเมริกาของผู้ให้บริการเหล่านี้ และคุณก็สามารถดูผลลัพธ์ได้ในหน้านี้ แต่การทดสอบของเราไม่จบเพียงแค่นั้นพวกเรายังได้ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Website Planet ถึง 30+ คนจากทั่วโลกทำการทดสอบโฮสเหล่านี้ในประเทศของตัวเองด้วย พร้อมทั้งให้ทำการเปรียบเทียบกับโฮสที่มีในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ของการทดสอบในพื้นที่ คุณสามารถเปลี่ยนภาษาตรงมุมขวาบนของหน้านี้

หรือเพียงแค่ข้ามไปดูบทสรุปของผลลัพธ์สำหรับบริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดได้เลย

ใครคือเว็บโฮสที่ดีที่สุดในปัจจุบัน?

เพื่อที่จะหาผู้เข้าชิงความเป็นโฮสหมายเลข 1 ของโลก เราได้มองหาผู้ให้บริการที่เก่งหลายด้านซึ่งรองรับการโฮสสำหรับลูกค้าหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโฮสแบบแชร์ที่เรียบง่ายหรือแบบ managed WordPress ไปจนถึงแบบคลาวด์, VPS machines และเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ

อันดับหนึ่งในรายการนี้เลยก็คือ Hostinger มันเป็นโฮสที่เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลูกค้าหลายล้านราย ส่วนตัวแล้วเราไม่คิดเลยว่าผู้นำวงการจะทำคะแนนได้สูงเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วเว็บโฮสรายใหญ่มักจะอาศัยเพียงแค่ชื่อเสียงที่สร้างมาแต่เดิม และก็ไม่ได้ใส่ใจพยายามทำให้ดีที่สุดเหมือนในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องทำการทดสอบจริง ๆ เพื่อตัดสินเรื่องนี้อยู่ดี

เราต้องค้นหาอย่างเจาะลึกเพื่อที่จะเจอโฮสรายอื่น ๆ เนื่องจากเราไม่อยากเลือกเฉพาะผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยมเพียงอย่างเดียว เราประชุมกับผู้เชี่ยวชาญที่ Website Planet จากทั่วโลก (ประชุมผ่าน Zoom!) เพื่อที่ขอความเห็นจากพวกเขาเกี่ยวกับบริการที่ดีที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้เราก็ได้สอบถามข้อมูลจากชุมชน กลุ่ม เว็บบอร์ด และ subreddit ของนักพัฒนาเว็บไซต์ด้วย เอากันตรง ๆ ก็คือทุกที่เท่าที่เราจะนึกออก

พวกเราพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาสำหรับเว็บโฮสทั้งหลายและก็ถกเถียงกันว่ารายไหนที่น่าผิดหวังและหลายไหนที่ทำได้ดีเกินคาดเป็นประจำ และตัวไหนที่ทำได้ดีแค่กลาง ๆ พวกเราได้เปรียบเทียบความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าผู้ให้บริการรายใดที่พวกเขาเลือกให้เป็นผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้มากที่สุด

บริการโฮสติ้งที่ปรากฏบ่อยครั้งที่สุดในระหว่างการสืบค้นข้อมูลนั้นจะเป็นผู้ให้บริการส่วนใหญ่ที่ปรากฏในรายการของเรานี้ด้วย

ทีมในฝันของเราพร้อมแล้ว และก็ถึงเวลาเริ่มดำเนินการ ขั้นตอนถัดไปก็คือการทดสอบผู้ให้บริการแต่ละรายแยกกัน เก็บข้อมูลมากมายไปรวมกันไว้ใน Google Sheets และสุดท้ายก็นำข้อมูลทั้งหมดมาเปรียบเทียบและจัดอันดับผู้ให้บริการ

เดี๋ยวเราจะอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการทดสอบและพูดถึงผลลัพธ์ แต่ก่อนอื่น เราขอแนะนำให้รู้จักกับผู้เข้าชิงตำแหน่งชุดสุดท้ายของ Website Planet คุณสามารถคลิกที่ชื่อของเว็บโฮสแต่ละรายเพื่ออ่านรีวิวฉบับเต็มที่มีความตรงไปตรงมาของเราได้

• Hostinger: รีวิวฉบับเต็ม
• IONOS: รีวิวฉบับเต็ม
• SiteGround: รีวิวฉบับเต็ม
• HostArmada: รีวิวฉบับเต็ม
• InterServer: รีวิวฉบับเต็ม
• GreenGeeks: รีวิวฉบับเต็ม
• Nexcess: รีวิวฉบับเต็ม
• InMotion Hosting: รีวิวฉบับเต็ม
• hosting.com (formerly A2 Hosting): รีวิวฉบับเต็ม
• Kinsta: รีวิวฉบับเต็ม

คุณสามารถข้ามไปยังข้อสรุปของบทความนี้ได้เพื่อรับคูปองส่วนลดสำหรับผู้ให้บริการโฮสติ้งทั้งหมดที่อยู่ด้านบน

ในขณะที่เราทำการประเมินโฮสทั้งหมดนี้ในมาตรฐานเดียวกัน แต่ก็โปรดทราบว่าเราจัดอันดับพวกมันโดยอ้างอิงตามประโยชน์ด้านการใช้งานทั่วไปที่ดีที่สุด ดังนั้นมันจึงอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในกรณีเฉพาะอย่างองค์กร ตัวแทนจำหน่าย หรือโฮสติ้งสำหรับเล่นเกม

อย่างไรก็ตาม พวกเรามีรายการ 10 อันดับแรกอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถเข้าไปดูได้ถ้าคุณมีกรณีการใช้งานแบบเฉพาะอยู่ในใจแล้ว ภารกิจของพวกเราคือการค้นหาผู้ให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับโฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์ Windows, เว็บไซต์ WordPress, โฮสติ้งแบบไม่แสวงหากำไร และอีกมากมาย

ถ้าคุณต้องการจะทดสอบเว็บโฮส คุณก็ต้องสร้างเว็บไซต์จริงขึ้นมา

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะประเมินคุณภาพของเว็บโฮสโดยที่ไม่ใช้งานมันจริง ๆ และในการจะใช้งานมันจริง ๆ คุณก็จะต้องสร้างเว็บไซต์ขึ้นมา WordPress นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่เราเลือก แต่เว็บไซต์ของเราก็ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างอยู่…

นี่ทำให้เรานึกย้อนไปถึงคืนในเดือนกุมภาพันธ์ที่มืดครึ้มและก็มีฝนตก เรากำลังรอรถเมล์และตอนนั้นเราก็รู้สึกปวดหัว แถมเจ็บคออีกต่างหาก เราก็รู้ตัวละว่าเป็นหวัด! แล้วเราก็จำบทความหนึ่งที่เคยอ่านมาได้เกี่ยวกับวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ซึ่งสามารถช่วยพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันและก็จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการเป็นไข้หวัดได้ จากความทุกข์ยากลำบากใจของเราในวันนั้น ทำให้เราปิ๊งไอเดียเว็บไซต์อันปราดเปรื่องขึ้นมา

เป็นเกียรติมากที่จะได้แนะนำคุณให้รู้จักกับสตาร์ทอัพที่ไม่มีอยู่จริงของเราที่ชื่อว่า Nutritionistica!

มันเต็มไปด้วยแนวคิดริเริ่มใหม่ ๆ เราซื้อธีม WordPress ที่มีความยืดหยุ่นมาและก็ออกแบบเว็บไซต์ที่มีหน้าตาคล้ายกันนี้ซึ่งเรานำไปเปิดตัวบนแพลตฟอร์มของเว็บโฮสต่าง ๆ

สำหรับโฮสแต่ละราย เราก็ทำตามขั้นตอนแบบเดียวกัน:

ก่อนที่เราจะสมัครใช้งาน เราก็ได้ทำการแชทกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าอยู่นานเพื่อประเมินพวกเขา เราแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง (แบบไม่รู้อะไรเลย) จากนั้นเราก็ถามคำถามมากมาย พร้อมทั้งจดรายละเอียดไว้ว่าทางตัวแทนนั้นซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพขนาดไหน

ถ้าพวกเขาพยายามผลักดันให้เราซื้อแผนขั้นสูงที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ หรือเล่าเรื่องเกินจริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพในออสเตรเลีย (ทั้งที่เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา) หรือแสดงให้เห็นว่าบริการนั้นไม่ครอบคลุม เราก็จะหักแต้มพวกเขา

หลังจากนั้นเราจะสร้างบัญชีโฮสติ้งและก็ลิงก์ชื่อโดเมนเข้ากับผู้ให้บริการเหล่านี้ เรามักจะเลือกแผนแบบแชร์โฮสติ้งขั้นพื้นฐานที่สุดที่มีให้ ซึ่งจะมีระบุรายละเอียดอยู่ในกระบวนการ เราอยากจะเข้าใจว่าโฮสแต่ละรายนั้นใช้งานง่ายขนาดไหน และก็เพื่อเป็นการตรวจสอบว่ารายใดที่พยายามจะทำให้คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มอย่างที่คุณไม่รู้ตัว เราจะจดรายละเอียดตำแหน่งของศูนย์ข้อมูล และถ้าโฮสมีการจดทะเบียนโดเมน เราก็จะใช้บริการนั้นด้วย

ในแต่ละครั้ง เราก็จะติดตั้ง WordPress, SSL certificate อัปโหลดธีมที่เราปรับแต่งไว้ และก็ประเมินสิ่งที่แผนต่าง ๆ มีให้จริง คุณจะได้รับทรัพยากรใด และจะสามารถใช้เครื่องมืออะไรได้บ้าง? คุณสมบัติไหนที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี และอะไรที่ถูกล็อกเอาไว้ให้ต้องจ่ายเงินก่อน

พอเว็บไซต์ของเราสามารถถูกเข้าถึงได้แล้ว เราก็ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าอีกครั้ง และก็บอกกับตัวแทนว่าความเร็วในการโหลดนั้นค่อนข้างน่าผิดหวัง และก็ขอให้พวกเขาช่วยทำให้เว็บไซต์ของเราโหลดได้เร็วขึ้น จากนั้นเราก็ทำตามคำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพที่เขาบอก

ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการทดสอบประสิทธิภาพ เราวัดความเร็วการโหลดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก และก็ทำการตรวจสอบ uptime เพื่อดูว่าโฮสรายใดที่เชื่อถือได้มากที่สุด เครื่องมือที่เราใช้ก็คือ:

• GTmetrix PRO
• Sucuri Load Time Tester (น่าเสียดายที่ปัจจุบันไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ดังนั้นในบางการทดสอบเราจะใช้ GTmetrix PRO แทน)
• แผนระดับ Pro ของ UptimeRobot

ผลลัพธ์และการวิเคราะห์: แต่ละโฮสเป็นอย่างไรบ้าง?

หลังจากที่ทำการทดลองกับโฮสทั้งหลายและเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือน ในที่สุดเราก็สามารถทำภารกิจของเราในการเปรียบเทียบผู้ให้บริการโฮสติ้งทั้งหมดเพื่อค้นหาผู้ให้บริการที่ดีที่สุดได้สำเร็จ

เราได้จัดอันดับแต่ละบริการไว้ในห้าหมวดหมู่:

1. คุณสมบัติ
2. ความสะดวกในการใช้งาน
3. ประสิทธิภาพ
4. ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
5. ราคา

คุณจะเจอตารางสำหรับแต่ละหมวดหมู่ตามมาด้วยคำอธิบายและการอภิปรายอย่างละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์การเปรียบเทียบทั้งหมด

คุณสมบัติ

คุณสมบัติของเว็บโฮสติ้งคือสิ่งที่แต่ละบริการจัดสรรให้คุณ นี่จะประกอบไปด้วยตัวเลือก ทรัพยากร เครื่องมือ บริการ สิทธิพิเศษ และของแถมอื่น ๆ ที่เว็บโฮสมีให้เอาไว้สำหรับช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้ ปลอดภัย และเข้าถึงได้ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถคาดหวังได้จากแผนขั้นพื้นฐาน:

รับคูปองสำหรับโฮสทั้งหมดนี้

พื้นที่ดิสก์

ทุกอย่างที่คุณโฮสนั้นต่างก็ต้องใช้พื้นที่ ตั้งแต่การติดตั้ง WordPress (หรือแพลตฟอร์มอื่น) ไปจนถึงข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ ทุกอย่างต่างก็ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่คุณได้รับจัดสรร InterServer และ InMotion Hosting นั้นจะมีพื้นที่ให้ไม่จำกัดในบางแผน IONOS, Kinsta, GreenGeeks และ SiteGround นั้นจะมีพื้นที่ให้น้อยที่สุด โดยที่ Nexcess, HostArmada และ Hostinger จะดีกว่าเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม อย่าพึ่งด่วนสรุปว่ามากกว่าจะดีกว่าเสมอไป 10GB นั้นก็ถือว่าเพียงพอสำหรับบล็อก, หน้าสำหรับธุรกิจ และแม้แต่ร้านอีคอมเมิร์ซที่มีรูปในความชัดระดับ HD เป็นพัน ๆ รูป “พื้นที่ไม่จำกัด” อาจจะฟังดูเยี่ยม แต่มันมักจะติดเงื่อนไข “fair use agreement (การใช้อย่างยุติธรรม)” และคุณก็มักจะไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ในการตัดสินอยู่แล้วว่าอะไรที่เรียกว่ายุติธรรม

แบนด์วิดท์หรือการโอนย้ายข้อมูล

เมื่อมีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณ โฮสก็จะส่งพวกเขาไปยังหน้าที่พวกเขาร้องขอ ในทำนองเดียวกันกับการที่เนื้อหาทั้งหมดที่คุณโฮสจะถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่คุณสามารถใช้งานได้ แบนด์วิดท์ก็จะเป็นปริมาณข้อมูลที่คุณสามารถส่งได้ภายในแต่ละเดือน ยิ่งคุณมีผู้เข้าชมมากเท่าไร คุณก็จะต้องใช้แบนด์วิดท์มากขึ้นเท่านั้น

SiteGround และ Kinsta จะจำกัดตัวเลขนี้ แต่คุณก็คงจะสังเกตไม่เห็นถ้าคุณไม่ได้มีทราฟฟิคเยอะ โฮสรายอื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญโดยจะมีแบนด์วิดท์ให้ไม่จำกัด แต่ก็เช่นเดียวกันกับพื้นที่ดิสก์ คำว่า “ไม่จำกัด” เหล่านี้มักจะทำให้เข้าใจผิด คุณมักจะต้องเจอกับข้อจำกัดอะไรบางอย่าง ถ้าเว็บไซต์ของคุณใช้งานถึงเกณฑ์ที่กำหนด ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ Nexcess เป็นแชมป์ตัวจริงในเรื่องแบนด์วิดท์ เพราะมันจัดสรรทรัพยากรไว้ในปริมาณมากสำหรับทราฟฟิคของคุณ

แผงควบคุม

คุณพูดภาษา Linux หรือไม่? ไม่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแผงควบคุมถึงถูกคิดค้นขึ้นมา มันทำให้คุณสามารถแก้ไขและกำหนดค่าบริการโฮสติ้งที่คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น DNS records ไปจนถึงฐานข้อมูลและบัญชีอีเมล

โฮสส่วนใหญ่จะมี cPanel ให้ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถ้าพูดกันเกี่ยวกับการจัดการการโฮสติ้งขั้นพื้นฐานแล้วนั้น ใช้ตัวเลือกนี้ยังไงก็ไม่ผิดพลาดแน่นอน Hostinger, IONOS และ SiteGround นั้นยังได้พัฒนาแผงควบคุมของตัวเองขึ้นมาด้วย โดยก็สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีไม่แพ้กันโดยไม่ใช้ทรัพยากรในแผนโฮสติ้งของคุณเพิ่มเติม

Kinsta และ Nexcess นั้นจะไม่ได้สนใจเรื่องแผงควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ มันจะมีตัวเลือกไม่มากเท่ากับคู่แข่ง แต่ก็มีเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น ทั้งสองบริการนั้นจะเป็นแบบ managed ซึ่งหมายความว่าการกำหนดค่าส่วนใหญ่นั้นจะมีคนมาจัดการให้แทนคุณ

การติดตั้งอัตโนมัติ

การติดตั้ง CMS (ระบบการจัดการเนื้อหา) อย่างเช่น WordPress ในอดีตนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก แต่ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกในการติดตั้งอัตโนมัติซึ่งใช้งานง่ายให้

โฮสส่วนใหญ่จะมีแผงควบคุม cPanel ที่บันเดิลมากับ Softaculous ซึ่งเป็นตัวติดตั้งอัตโนมัติที่ใช้งานได้ดีมาก ๆ และก็มีการติดตั้ง CMS นับร้อยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็รวมถึงตัวเลือกที่ได้รับความนิยมที่สุดอย่าง WordPress ด้วย

Hostinger, IONOS และ SiteGround นั้นได้พัฒนาโซลูชันขึ้นมาเองซึ่งทำงานได้คล้าย ๆ กัน และก็มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองด้วย แต่อย่าคิดว่านี่จะทำให้คุณไม่สามารถเลือกใช้ CMS หรือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของบุคคลที่สามได้ อันที่จริง Hostinger ได้รับการจัดอันดับของเราให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับ WordPress เนื่องจากมีการปรับปรุงแผนเอาไว้ให้รองรับมัน

Kinsta และ Nexcess นั้นก็ทำตามที่สัญญาไว้ว่าจะจัดการเรื่องทั้งหมดให้กับคุณ พวกเขาจึงไม่เปิดให้คุณเข้าถึงบริการเหล่านี้ แต่ CMS ที่คุณเลือกจะถูกติดตั้งมาไว้แต่แรกแล้ว

การรองรับแพลตฟอร์ม

คุณสามารถติดตั้ง CMS รายใดได้บ้างกับแต่ละบริการ? WordPress นั้นเป็นตัวเลือกยอดนิยม แต่มันก็ไม่ใช่แพลตฟอร์มเว็บไซต์รายเดียวที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ตอนนี้มีตัวเลือกให้นับร้อย ไม่ว่าจะเป็น Joomla และ Magento สำหรับพัฒนาโครงการที่เกี่ยวกับ PHP

โฮสเกือบทั้งหมดนั้นมีการรองรับแพลตฟอร์มอย่าง “เต็มรูปแบบ” หมายความว่าคุณสามารถใช้งาน CMS ได้ทุกรูปแบบที่คุณต้องการ แต่ก็มีข้อยกเว้นบางประการ

SiteGround รองรับ CMS แบบ PHP และ MySQL แต่ถ้าคุณจะต้องใช้แผน VPS เพื่อที่จะใช้งาน CMS ของคุณ อันนี้ก็น่าเสียดายแต่ทำอะไรไม่ได้ Nexcess จะรองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมส่วนใหญ่ แต่เซิร์ฟเวอร์ของมันนั้นก็ถูกปรับแต่งให้รองรับแต่ละประเภทอย่างสูงด้วย (คุณสามารถเลือกแผน Flexible Cloud ได้ถ้าคุณกำลังต้องการความยืดหยุ่น) Kinsta นั้นเป็นบริการที่เน้น WordPress (และ WooCommerce) และก็ไม่สามารถใช้งานกับ CMS อื่น ๆ ได้

SSL certificate

เราเน้นบ่อยมากเกี่ยวกับความสำคัญของ SSL certificate มันจะเพิ่มความปลอดภัยและทำการเข้ารหัสให้กับข้อมูลของผู้เข้าชมของคุณ นี่จะเป็นการรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาในกรณีที่เขาทำการล็อกอินหรือส่งข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณ มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ และก็เป็นที่รู้จักกันว่าจะส่งผลดีต่อการจัดอันดับบน Google และ SEO ทั่วไปด้วย

ในขณะที่ SSL certificate นั้นเคยมีราคาแพงมากในอดีต แต่ในปัจจุบันมันมีโซลูชันที่มีราคาถูกกว่ามาก Let’s Encrypt SSL, cPanel AutoSSL และ Cloudflare SSL certificates นั้นสามารถใช้งานได้ฟรี โฮสแทบทุกรายนั้นต่างก็สามารถจัดสรรสิ่งนี้ไว้ให้คุณได้ และโฮสทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้ทำเช่นนั้นแล้ว ให้ความสำคัญกับโฮสที่มี SSL certificate ระดับพรีเมียมให้ฟรีอยู่ในแผน อย่างเช่น HostArmada (Sectigo) and IONOS (DigiCert Wildcard)

FastComet นั้นยังมี Comodo Positive SSL ฟรีในแผนแบบแชร์โฮสติ้งที่แพงที่สุดด้วย ในขณะที่ Kinsta จะมี Cloudflare Wildcard SSL ให้ SSL certificate ขั้นสูงที่ต้องจ่ายเงินเหล่านี้ต่างก็มีการเข้ารหัสและความปลอดภัยที่ดีกว่าสำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของคุณ อย่างไรก็ตาม certificate ของ Let’s Encrypt นั้นก็ดีพอแล้วสำหรับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ และก็ดีกว่าการที่ไม่มี SSL เลยเป็นอย่างมาก

คะแนน SSL Qualys

Qualys จะทดสอบความแข็งแกร่งของการป้องกัน SSL บนเว็บไซต์ของคุณ โดยจะให้ระดับตั้งแต่ A ไปถึง F คุณใส่ใจผู้เข้าชม, SEO ของคุณ และการเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นการที่ได้ระดับต่ำกว่า A นั้นก็น่าเป็นห่วงแล้ว

นอกจาก FastComet และ InMotion Hosting แล้ว โฮสรายอื่น ๆ ต่างก็ได้คะแนนในระดับ A หรือสูงกว่า เป็นการช่วยให้คุณสบายใจได้ คะแนนระดับ B หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่าโฮสเหล่านี้สามารถทำได้ดีกว่านี้ แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถทราบได้ พวกเขาเลือกที่จะไม่ใส่ใจในด้านนี้ของบริการ นั่นถือเป็นข่าวร้าย

การสำรองข้อมูล

ในขณะที่ตัวติดตั้งอัตโนมัติทั้งหมดนั้นสามารถถูกกำหนดค่าให้ทำการสำรองข้อมูล CMS ไปบนพื้นที่ดิสก์ของคุณได้ แต่เรามองหาการสำรองข้อมูลระบบอย่างเต็มรูปแบบที่ทำงานโดยอัตโนมัติและเก็บข้อมูลไว้บนเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล ดังนั้นถ้าพื้นที่การโฮสของคุณนั้นเกิดช่องโหว่เพราะแฮ็กเกอร์ คุณก็ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำรองดังกล่าวได้อยู่

โฮสส่วนใหญ่นั้นจะมีการสำรองข้อมูลแบบนี้เป็นส่วนเสริมที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ และตัวเลือกอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่ของเรานั้นก็จะมีการสำรองข้อมูลรายวันหรือรายสัปดาห์ฟรีที่เข้าถึงได้ง่ายให้กับคุณ และคุณยังสามารถกู้คืนมันมาใช้งานได้ทุกเมื่ออีกด้วย ข้อยกเว้นเดียวก็คือ InMotion Hosting ซึ่งจะไม่มีการสำรองข้อมูลฟรีให้สำหรับแผนแบบแชร์โฮสติ้ง คุณจะต้องทำการสั่งซื้อส่วนเสริมชื่อ Backups Manager ซึ่งมีราคาเกือบจะเท่ากับแผนระดับเริ่มต้นของ Hostinger เลย

นอกจากนั้นก็ยังมี HostArmada และ FastComet ที่มอบสิ่งที่ดีเกินคาดหวังให้อีกเพราะว่ามันมีการสำรองข้อมูลรายวันไปยังนอกพื้นที่

จำนวนโดเมน

นี่ไม่ได้หมายถึงชื่อโดเมนที่คุณจดทะเบียน แต่หมายถึงจำนวนเว็บไซต์แยกที่คุณสามารถโฮสได้ในแผนของคุณ แน่นอนว่าหนึ่งโดเมนนั้นเป็นขั้นต่ำ และมันก็มักจะเป็นสิ่งที่แผนขั้นพื้นฐานมีให้ จ่ายเงินเพิ่มเพื่อแผนขั้นสูงและคุณก็จะได้โดเมนเพิ่ม

เป็นเหมือนกันหมดสำหรับโฮสต่าง ๆ ในรายการนี้ ยกเว้น InMotion Hosting และ InterServer InMotion Hosting จะให้คุณ 2 โดเมนในแผนขั้นพื้นฐาน ในขณะที่แผนของ InterServer นั้นจะมาพร้อมกับโดเมนแบบไม่จำกัด ซึ่งก็เป็นจุดขายหลักของโฮสรายนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ขอให้จำไว้ว่าทรัพยากรในการคำนวณเบื้องหลังยังคงมีให้ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นแผนนี้จะเหมาะถ้าคุณต้องการสร้างแลนดิ้งเพจหลาย ๆ หน้า หรือต้องการบล็อกขนาดทั่วไปหลาย ๆ บล็อก แต่จะไม่เหมาะกับร้านขนาดใหญ่ที่ต้องการทรัพยากรเยอะ

จำนวนบัญชีอีเมล

ถ้าคุณต้องการบัญชีอีเมลเฉพาะสำหรับโดเมน และต้องการจะใช้มันสำหรับทำธุรกิจ ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าโฮสมีอะไรให้บ้าง ตัวอย่างเช่น IONOS นั้นจะมีให้แค่บัญชีอีเมลเดียวในแผนขั้นพื้นฐาน Hostinger นั้นจะดีกว่าเพราะว่ามันมีบัญชีอีเมลให้ถึง 100 บัญชี

โฮสอันดับต้น ๆ บางรายจะมีอีเมลให้ไม่จำกัดในแผนแบบแชร์โฮสติ้งขั้นพื้นฐาน อย่างเช่น InterServer และ HostArmada สำหรับ InMotion Hosting และ FastComet นั้น คุณจะต้องเลือกใช้แผนขั้นที่สูงขึ้นเพื่อที่จะเข้าถึงคุณสมบัตินี้

Kinsta นี่จะน่าเศร้าที่สุดเพราะไม่มีอีเมลโฮสติ้ง ให้เลยสักนิด หมายความว่า คุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อใช้ บริการด้านอีเมลโดยเฉพาะอย่าง Google Workspace

CDN

เว็บไซต์ของคุณนั้นจะถูกโฮสอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่จับต้องได้ซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลก ยิ่งตำแหน่งดังกล่าวอยู่ห่างผู้เยี่ยมชมของคุณมากแค่ไหน พวกเขาก็ต้องใช้เวลาในการโหลดเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเท่านั้น ต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้ใช่ไหม? CDN (content delivery network) ช่วยได้ CDN จะแคช (สร้างสำเนา) องค์ประกอบบนเว็บไซต์ของคุณ (รูป โค้ด และหน้าเว็บไซต์ที่ render แล้ว) และก็กระจายมันไปยังเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก เพื่อเป็นการเพิ่มความเร็วในการส่งมอบเนื้อหา

Hostinger, Nexcess, SiteGround และ Kinsta จะมีความโดดเด่นในด้านนี้ โดยมันจะเปิดให้คุณเข้าถึงบริการ CDN ระดับพรีเมียมได้ โฮสรายอื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้งาน CDN บุคคลที่สามของ Cloudflare ที่สามารถใช้ได้ภายในคลิกเดียว Cloudflare นั้นมีบริการฟรี แต่มันไม่เร็วที่สุด

Caching (การแคช)

CDN นั้นไม่ใช่อย่างเดียวที่สามารถแคชหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ โฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์ของคุณก็ทำได้เช่นกัน! จะปล่อยให้เซิร์ฟเวอร์ “สร้าง” หน้าโฮมเพจของคุณใหม่ทุกครั้งที่มีผู้เยี่ยมชมเข้าดูทำไม ในเมื่อมันก็เป็นหน้าโฮมเพจเดียวกันทุกครั้ง? เครื่องมือ caching จะสร้างหน้าเว็บที่พร้อมส่งได้ในทันที และนี่จะช่วยลดโหลดบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

โฮสทั้งหมดนี้ต่างก็มีการ caching ในระดับเซิร์ฟเวอร์รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บไซต์สามารถถูกส่งได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณควรจะสามารถคาดหวังบริการ caching ขั้นสูงในแผนที่มีราคาแพงกว่าด้วย โฮสอย่าง Kinsta, SiteGround และ Hosting.com (เดิมชื่อ A2 Hosting) นั้นต่างก็มีโซลูชันการ caching ที่ใช้งานได้เลยเป็นของตัวเอง

เครื่องมือความปลอดภัย

ตัวสแกนไวรัส, WAF (web application firewall) และเครื่องมืออื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณโฮสเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งที่แนะนำให้มี โลกออนไลน์นั้นอันตราย ปลอดภัยไว้ย่อมดีกว่า

โฮสส่วนใหญ่นั้นจะมีความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้ฟรีอยู่ในแผน ซึ่งรวมถึงไฟร์วอลล์, การป้องกัน DDoS และตัวสแกนไวรัส InterServer จะได้รางวัลตรงนี้ไปเพราะว่าพวกเขาเปิดให้คุณเข้าถึงตัวสแกนและเครื่องมือความปลอดภัยได้อย่างเต็มรูปแบบในชุดเครื่องมือความปลอดภัย InterShield ทั้งหมดนี้ติดตั้งมาล่วงหน้าและก็ใช้งานง่ายด้วย

ความสะดวกในการใช้งาน

เว็บโฮสหลายรายนั้นไม่ได้ใช้เวลาไปกับการใส่ใจรายละเอียดเรื่องประสบการณ์ของผู้ใช้งานสักเท่าไร แต่ความสะดวกในการใช้งานนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ การเรียนรู้วิธีใช้งานบริการที่ออกแบบมาไม่ดีนั้นอาจจะทำให้คุณต้องเสียเวลาไปหลายชั่วโมงหรืออาจจะหลายวัน

ไม่ต้องประหลาดใจถ้าคุณเห็นเครื่องหมายติ๊กถูกอยู่ข้างเกือบจะทุกคุณสมบัติเกี่ยวกับความสะดวกในการใช้งานด้านล่าง ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานนั้นเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญสำหรับบริการโฮสติ้ง ดังนั้นพวกเราจึงคัดสรรเฉพาะโฮสที่ทำคะแนนได้ดีในหมวดหมู่นี้

ดูข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับโฮสชั้นนำของเรา

สมัครใช้งานง่าย

คงไม่มีใครอยากจะรู้สึกเหมือนเขากำลังทำการบ้านความยากระดับมัธยมในระหว่างการสมัครใช้งานบริการโฮสติ้ง เราจะให้ ✔ สำหรับบริการที่สมัครใช้งานง่าย ซึ่งในโลกอุดมคตินั้นจะประกอบไปด้วยการที่เราแค่กรอกที่อยู่อีเมล เลือกรหัสผ่าน และก็กรอกข้อมูลการชำระเงินเท่านั้น ถ้ากระบวนการสมัครใช้งานนั้นมีคำถามที่น่ารำคาญ ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือกระบวนการที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น เราก็จะให้ ✘

โฮสส่วนใหญ่นั้นจะทำได้ดีในส่วนนี้ บางรายนั้นพาเราไปหน้าอื่นเพิ่มเติม และก็ดูชวนสับสนเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นความผิดที่พอยอมรับได้ ยังไงก็ตาม Nexcess และ Kinsta ขอข้อมูลน้อยที่สุด มันไม่สร้างปัญหาในการสมัครใช้งานใด ๆ และเราก็สมัครใช้งานเสร็จได้ภายในหนึ่งนาที

เปิดใช้งานบัญชีได้ในทันที

เรานี่ก็บ้าจริง ๆ เรานึกว่าหลังจากที่สมัครใช้งานและกรอกข้อมูลการชำระเงินถูกต้องแล้ว เราก็จะสามารถใช้งานได้ในทันที เราเข้าใจผิดไปอย่างแรง โฮสส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GreenGeeks จะมีโปรโตคอล “ป้องกันการฉ้อโกง” และโปรโตคอลเหล่านี้ก็จะบล็อกการสั่งซื้อของเราอย่างรวดเร็ว ทำให้เราต้องกลับไปเริ่มต้นวางแผนใหม่ คุณอาจจะไม่ถูกปักธงโดยโปรโตคอลนี้ แต่เราโดนมาแล้ว

มีเฉาพะ Hostinger, IONOS, Kinsta และ InMotion Hosting เท่านั้นที่เปิดใช้งานบัญชีของเราในทันที SiteGround และ InterServer นั้นจะคิดเงินไปยังบัตรเครดิตของเราเล็กน้อย ซึ่งเราก็ต้องทำการยืนยันเพื่อที่จะผ่านการตรวจสอบ FastComet นั้นจะขอดูภาพหน้าจอในการชำระเงินบัตรเครดิต InMotion Hosting นั้นจะไม่ได้ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ของเราในทันที ซึ่งก็ทำให้การตั้งค่าเว็บไซต์ต้องล่าช้าไปด้วย

การเชื่อมต่อโดเมน

มันง่ายมาก ๆ ที่จะได้รับคะแนนสูงในหมวดหมู่นี้ ที่โฮสต้องทำก็เพียงแค่นำชื่อเซิร์ฟเวอร์หรือ IP ไปไว้ในจุดที่มองเห็นได้ และก็มีคู่มืออย่างเร็วเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ จะสอบตกในขั้นตอนพื้นฐานที่ลูกค้าทุกคนต้องทำเหมือนกันหมดได้ยังไง?

น่าประหลาดใจที่ InterServer, Nexcess, Kinsta และ SiteGround ทำให้นี่กลายเป็นเรื่องยาก และเราก็ต้องกำหนดค่า DNS record เอง นี่เป็นสิ่งที่โฮสรายอื่น ๆ เกือบทั้งหมดจะทำให้โดยอัตโนมัติ และมันก็ใช้เวลาชีวิตของเราไปเป็นชั่วโมง

การย้ายเว็บไซต์

มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้หลายอย่างในการย้ายเว็บไซต์: ข้อมูลสูญหายระหว่างการย้าย, การ mapping URL ไม่ถูกต้อง, downtime ที่ไม่คาดคิด เพราะแบบนั้นคุณจึงควรจะมองหาโฮสที่มีการย้ายเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของบริการสำหรับลูกค้ารายใหม่ โฮสส่วนใหญ่นั้นจะมีบริการนี้ให้ฟรีเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารายใหม่มาลงทะเบียนใช้งาน

โดยทั่วไปแล้ว โฮสจะทำสิ่งนี้ให้คุณเฉพาะถ้าคุณมีไฟล์ทั้งหมดของเว็บไซต์ของคุณ หรือคุณกำลังใช้ cPanel หรือ WordPress ที่มีการเข้าถึง SSH บริการนี้ยังจำกัดจำนวนเว็บไซต์ด้วย (ส่วนใหญ่แล้วจะให้แค่หนึ่ง) หลังจากนั้นคุณต้องจ่ายเงินเพิ่มสำหรับการย้ายเว็บอื่น ๆ โฮสบางรายนั้นยังมีซอฟต์แวร์สำหรับย้ายเอาไว้ให้คุณใช้ได้ฟรีด้วย

ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถทำการทดสอบบริการย้ายเว็บไซต์โดยตรงได้ แต่พวกเราก็คำนึงถึงบริการย้ายเว็บไซต์ในแต่ละข้อเสนอด้วยสำหรับทุกโฮสที่พวกเราทดสอบ พวกเรามีการจัดอันดับแยกสำหรับ โฮสที่ดีที่สุดที่มีบริการย้ายเว็บไซต์ฟรีด้วย เพราะพวกเราเข้าใจว่าบริการย้ายนั้นไม่ได้ถูกสร้างมาอย่างเท่าเทียมกัน

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์และเครื่องมือ AI

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์นั้นเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์ที่จะทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนใครได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเป็น เครื่องมือสร้างส่วนใหญ่นั้นจะมีเทมเพลตที่ปรับแต่งได้ ซึ่งจะทำให้การสร้างเว็บไซต์นั้นง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เครื่องมือสร้างรุ่นล่าสุดนั้นจะมีเครื่องมือ AI ผสมอยู่ด้วย ซึ่งมันสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำใครได้ด้วยการพิมพ์บอกเพียงไม่กี่ครั้ง และมันยังสามารถสร้างเนื้อหาให้คุณได้ด้วย อย่างเช่นในเครื่องมือสร้างด้วย AI ของ Hostinger

ในขณะที่บางโฮสนั้นจะมีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ก็มีรายอื่น ๆ ที่จะใช้บริการจากบุคคลที่สามอย่าง Weebly หรือ Squarespace เช่นกัน

แพลตฟอร์มเครื่องมือสร้างเว็บไซต์บุคคลที่สามนั้นมักจะมีทั้งแบบฟรีและแบบจ่ายเงิน เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเองโดยผู้ให้บริการโฮสติ้งนั้นมักจะเปิดให้ใช้งานได้ฟรีอยู่ในบัญชีโฮสติ้งของคุณ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าโฮสบางราย ซึ่งรวมถึง IONOS จะคิดเงินเพิ่มสำหรับการใช้งานเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของพวกเขา หรืออาจจะมีให้ใช้งานได้ฟรีเฉพาะในบางแผนโฮสติ้งเท่านั้น

การติดตั้ง CMS

ตราบใดที่มีตัวติดตั้งอัตโนมัติให้ นี่ก็เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่คลิก กรอกรายละเอียดเว็บไซต์ใหม่ของคุณ ก็เป็นอันเรียบร้อย

SiteGround และ Hostinger นั้นทำงานได้ดี มันช่วยให้เราติดตั้ง WordPress ได้โดยอัตโนมัติในทันทีหลังจากที่สมัครใช้งานแล้ว IONOS, Nexcess, Kinsta และ InMotion Hosting นั้นดีที่สุด เนื่องจาก WordPress ถูกติดตั้งมาล่วงหน้าแล้วในแผนโฮสติ้ง WordPress

การใช้บริเวณบัญชี

สิ่งที่คุณระหว่างคุณกับแผงควบคุมโฮสติ้งของคุณก็คือบริเวณบัญชี นี่มักจะเป็นพื้นที่ที่บางครั้งคุณจะสามารถดูแผนของคุณได้ ดูเรื่องการจ่ายเงินได้ สั่งซื้อบริการเพิ่มได้ หรือบางครั้งมันก็แค่มีไว้เฉย ๆ ให้เห็นว่ามี ยิ่งมันซับซ้อนมากแค่ไหน หรือเต็มไปด้วยความพยายามในการเพิ่มยอดขายที่น่ารำคาญมากเท่าใด เราก็ยิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น

InterServer ได้คะแนนต่ำที่สุดเนื่องจากบริเวณบัญชีของมันนั้นออกแบบมาไม่ดีเลย และก็ดูล้าสมัยมาก ๆ มันเต็มไปด้วยความพยายามในการเพิ่มยอดขาย และก็ลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่มี hPanel แบบออลอินวันของ Hostinger นั้นดูเนี้ยบมาก ๆ แต่ป๊อปอัพในการพยายามเพิ่มยอดขายที่จะมากระตุ้นให้คุณอัปเกรดแผนหรือให้ซื้อส่วนเสริมอยู่เรื่อย ๆ นั้นก็น่ารำคาญมาก บริเวณบัญชีของ InMotion Hosting นั้นดูเหมือนอย่างกับว่ายายของเราเป็นคนออกแบบเลย ถึงแม้ว่ายายของเราจะเป็นคนดีมาก ๆ แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้งาน

Kinsta และ Nexcess นั้นมีสิ่งที่เราเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์สำหรับผู้ใช้งานที่สมบูรณ์แบบ มันผสมผสานบริเวณบัญชีที่ใช้งานง่ายเข้ากับแผงควบคุมโฮสติ้งได้อย่างไร้รอยต่อ นั่นหมายความว่าคุณจะเสียเวลาในการโหลดหน้าน้อยลง เสียเวลาเข้าเมนูต่าง ๆ น้อยลง และก็ไม่ต้องมานั่งเดาว่าอะไรอยู่ตรงไหน

ประสิทธิภาพ

นี่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของบริการเว็บโฮสติ้ง เว็บไซต์สำหรับใช้ทดสอบของเรานั้นจะคล้ายกับบล็อก หน้าสำหรับธุรกิจ หรือพอร์ตโฟลิโอที่คุณต้องการจะโฮสมากที่สุด ดังนั้นผลลัพธ์เหล่านี้ก็จะสามารถใช้เปรียบเทียบกับประสิทธิภาพจริงของคุณได้อย่างใกล้เคียง

คุณอาจจะเคยเห็นเว็บไซต์ “ทดสอบ” ที่มีคะแนนประสิทธิภาพสำหรับเว็บโฮสรายต่าง ๆ เราเสียใจที่ต้องพูดว่าส่วนใหญ่แล้วทำผิดวิธีอย่างสิ้นเชิง ถ้าคุณสนใจเรียนรู้วิธีการทำ ที่ถูกต้อง พวกเราได้เขียนบทความฉบับเต็มเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

ดูข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับโฮสเหล่านี้

ที่ตั้งศูนย์ข้อมูล

ศูนย์ข้อมูลนั้นเป็นเรื่องสำคัญ: คุณต้องใช้ศูนย์ข้อมูลที่อยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ถ้าคุณเขียนบล็อกเกี่ยวกับการเมืองไทย อยู่ในประเทศไทย มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย คุณก็ไม่ควรไปโฮสอยู่ในลอสแอนเจลิส คุณควรจะโฮสในตำแหน่งที่ใกล้ประเทศของคุณแทน ปกติแล้วคุณมักจะไม่มีตัวเลือกในแผนแบบแชร์โฮสติ้ง (ขอชื่นชมรายที่มีตัวเลือกให้คุณ) เพราะแบบนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรจะตรวจสอบตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ของโฮสของคุณ

ด้วยการใช้เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ระดับ Premier ของ Google Cloud (35+ ตำแหน่งทั่วโลก รวมถึงอีก 260+ edge location ของ Cloudflare) ทำให้ Kinsta เป็นผู้ชนะไปอย่างง่ายดาย ในด้านการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงยาก อย่างเช่น ญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่มีราคาแพงกว่าซึ่งมีรูปแบบการโฮสที่จำกัด

HostArmada ก็ตามมาติด ๆ เป็นอันดับสอง และโฮสรายอื่น ๆ ในรายการของเรานั้นก็มักจะให้บริการจากอัมสเตอร์ดัมและชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ โดยบางครั้งก็จะมีศูนย์ข้อมูลอยู่ในสิงคโปร์ InMotion Hosting และ InterServer นั้นยังมีศูนย์ข้อมูลในลอสแอนเจลิสด้วย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับกลุ่มเป้าหมายทางชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

โดยรวมแล้ว Hostinger เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับเรา แม้ว่าจะใช้แผนแบบแชร์โฮสติ้ง แต่ Hostinger ก็ยังเปิดให้คุณเลือกตำแหน่งศูนย์ข้อมูลของคุณได้ซึ่งรวมถึงตำแหน่งในบราซิล, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ลิทัวเนีย, สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ทำให้มันเป็นหนึ่งในบริการโฮสติ้งในสหราชอาณาจักรที่ดีที่สุดที่เราแนะนำ

เว็บเซิร์ฟเวอร์

นี่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้ คิดซะว่ามันเป็นเหมือนโค้ด (อย่าสับสนกับเซิร์ฟเวอร์แบบที่จับต้องได้ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับรันโค้ด) โดยโค้ดนี้จะถูกเขียนขึ้นมาโดยกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์มาก ๆ เพื่อที่ทำให้ผู้เข้าชมของคุณสามารถดูหน้าเพจและตอบสนองกับเว็บไซต์ของคุณได้ Apache และ Apache 2.x นั้นเป็นเทคโนโลยีเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มันใช้งานได้ดีและก็เชื่อถือได้ แต่เว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใหม่กว่าอย่าง NGINX และ LiteSpeed นั้นขึ้นชื่อว่าทำงานได้ดีกว่า Apache

IONOS และ InMotion Hosting นั้นยังแข่งขันได้ไม่ดีนักในหมวดหมู่นี้เนื่องจากมันมีให้ใช้งานได้เฉพาะ Apache เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Hostinger กับ GreenGeeks นั้นจะมีเซิร์ฟเวอร์ LiteSpeed ที่เร็วกว่าอยู่ในแผนเว็บโฮสติ้งทั้งหมดของพวกเขา FastComet และ HostArmada นั้นก็มีเซิร์ฟเวอร์ LiteSpeed เช่นกัน แต่มีแค่เฉพาะในบางแผน

ความเร็วในการโหลด

ความเร็วในการโหลดหน้าซึ่งวัดเป็นวินาทีนั้นจะขึ้นกับหลายปัจจัย บางเรื่องนั้นคุณจะควบคุมได้แต่บางเรื่องก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ ผู้เยี่ยมชมจากตำแหน่งต่าง ๆ และบางครั้งแม้แต่ผู้เยี่ยมชมคนเดียวกันในช่วงเวลาที่ต่างกันนั้นก็จะได้ความเร็วในการโหลดที่ไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการโหลดโดยเฉลี่ยที่มากกว่า 3 วินาทีนั้นไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักจะคลิกออกถ้าพวกเขาต้องรอเว็บไซต์ของคุณโหลดนานเกินไป

เพื่อที่จะเป็นการช่วยประเมินประสิทธิภาพของผู้ให้บริการโฮสติ้งแต่ละราย เราได้ใช้ GTmetrix เพื่อวัดความเร็วในการโหลดเป็นระยะยาว

เราทำการวัดความเร็วนี้แทบจะรายวัน และตอนนี้เราก็พร้อมจะนำเสนอความเร็วเฉลี่ยในการโหลดเว็บไซต์ทดสอบให้เสร็จอย่างเต็มรูปแบบ ไม่น่าประหลาดใจเท่าไรที่โฮสอันดับต้น ๆ ทั้งสองของเราซึ่งก็คือ Hostinger และ IONOS นั้นได้คะแนนความเร็วสูงที่สุด แต่บริการแบบ managed คลาวด์ที่มีราคาแพงที่สุด: Nexcess และ Kinsta ก็ดีไม่แพ้กัน

Uptime

Uptime นั้นวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ และเราก็ใช้ UptimeRobot ในการทดสอบมันเป็นเวลาหลายเดือน 100% นั่นหมายความว่าเว็บไซต์ไม่เคยล่มเลย 99% แปลว่ามันล่มไป 1% จากช่วงเวลาการทดสอบทั้งหมด 1% นั้นคือช่วงเวลาที่จะไม่มีผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าดูเว็บไซต์ของคุณได้เลย นั่นก็หมายความว่าคุณจะสูญเสียลูกค้า ผู้อ่าน หรือ อะไรก็ตาม พวกเขาอาจจะไม่พยายามลองเข้าเว็บไซต์ของคุณอีกเลย โฮสส่วนใหญ่รับประกัน (หรืออย่างน้อยก็พยายามทำให้ได้) uptime 99% เราอยากให้เว็บไซต์ของเรามี uptime 99.99%

และเราก็ยินดีที่จะได้รายงานว่าผลลัพธ์เรื่อง uptime ของโฮสทั้งหมดนั้นยอดเยี่ยมมาก ให้เวลามันไปก่อน เมื่อเกิดปัญหาแล้วเราจะมาอัปเดตอีกครั้ง

การรับประกัน uptime

โฮสที่เชื่อถือได้นั้นจะมีการรับประกัน uptime ในข้อตกลงระดับการบริการ (SLA) พวกเขาจะยึดมั่นในการรับประกัน และจะคืนเงินให้ถ้าทำไม่ได้ตามคำสัญญา

ปัญหาคือบางโฮสนั้นใช้วิธีที่เหมือนกลอุบาย พวกเขาจะใช้ภาษาที่ชวนให้คุณเข้าใจผิดเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ หรือให้คำนิยาม “การรับประกัน uptime” ในรูปแบบที่พวกเขาต้องการ ไม่ใช่แบบที่คุณต้องการ

ยกตัวอย่างเช่น InMotion Hosting จะโฆษณาว่า “รับประกัน 99.9%” พร้อมค่าธรรมเนียมหนึ่งเดือนในรูปแบบเครดิต แต่นี่จะมีให้ใช้งานได้เฉพาะในแผนแบบแชร์ Launch, Power และ Pro เท่านั้น Hostinger นั้นก็รับประกัน uptime เหมือนกัน แต่จะคินเงืนให้คุณเพียงแค่ 5% ของค่าธรรมเนียมรายเดือนเป็นเครดิตเท่านั้น แม้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะล่มตลอดทั้งเดือนก็ตาม

อย่างที่คุณเห็น ข้อตกลงเหล่านี้มันแตกต่างกันมาก ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องอ่านรายละเอียดดี ๆ แม้แต่โฮสพรีเมียมอย่าง Nexcess ก็ยังพูดความจริงไม่ครบถ้วน มันโปรโมทว่ารับประกัน uptime 100% ด้วยความมั่นใจ แต่ถ้าคุณขุดลึกลงไปใน SLA คุณจะเห็นว่าคุณต้องมี downtime ถึง 15 นาทีในเดือนนั้น ๆ คุณจึงจะได้ค่าชดเชย แบบนี้มันก็คงจะเรียกว่ารับประกัน 100% ไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าที่รับประกัน 99.9% ทั่วไป

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า

ถ้าคุณมีคำถามหรือเพียงแค่ต้องการความช่วยเหลือ คุณก็จะต้องพึ่งพาตัวแทนสนับสนุนลูกค้า การสอนใช้งาน และฐานความรู้ของโฮส ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานเริ่มต้น หรือไม่ค่อยถนัดเรื่องเทคโนโลยี คุณก็ต้องตรวจาสอบให้มั่นใจว่าฝ่ายสนับสนุนลูกค้าจะพร้อมให้บริการคุณ

ดูส่วนลดล่าสุดสำหรับโฮสที่ดีที่สุดของเรา

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าก่อนการขาย

ถ้าคุณกำลังต้องการสมัครใช้งาน คุณก็อาจจะมีคำถามบางประการ เพราะแบบนั้นการมีเซลล์มืออาชีพจึงเป็นเรื่องสำคัญ คนที่รู้เกี่ยวกับบริการจริง ๆ และไม่พยายามจะขายแผนหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้จริง เราได้ลองคุยกับโฮสทั้งหมดก่อนที่จะทำการสมัครใช้งาน น่าประหลาดใจที่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่มีให้เสมอไป ไลฟ์แชทนั้นเป็นวิธีการที่ชื่นชอบ แต่การตอบอีเมลที่รวดเร็วก็ดีไม่แพ้กัน ขอแค่อย่าให้เราต้องโทรหาคุณ เราไม่ต้องการแบบนั้น

ตัวแทนที่มีความเป็นมืออาชีพของ Nexcess นั้นมีความซื่อสัตย์ ตอบสนองเร็ว และก็ทำให้เรารู้สึกกระตือรือร้นที่จะสมัครใช้งานมากขึ้น FastComet นั้นก็ดีเช่นกัน พวกเขาตอบคำถามของเราเกี่ยวกับบริการได้เป็นอย่างดี และก็ไม่ได้พยายามขายของมากจนเกินไป Hosting.com (เดิมชื่อ A2 Hosting) และ Hostinger นั้นก็ยังไม่ดีที่สุดในเรื่องนี้ แต่ทั่วไปแล้วก็ถือว่าพึ่งพาได้ ข้อดีที่สุดเกี่ยวกับโฮสทั้งหมดนี้น่ะหรอ? พวกเขามีไลฟ์แชทบริการทั้งหมด

Kinsta นั้นบังคับให้เราต้องใช้อีเมล ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเนื่องจากบริการนี้มีราคาที่แพงอยู่แล้ว เราไม่ได้รับคำตอบสำหรับคำถามของเรา แต่ก็ยังมีตัวเลือกให้โทรไปสอบถามต่อได้ เฮ้อ

เรามีปัญหาในการติดต่อกับทีมเซลล์ของ IONOS บริการไลฟ์แชทนั้นไม่สามารถใช้งานได้ในหลาย ๆ ครั้ง และก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอีเมลสำหรับติดต่อเซลล์ด้วย เช่นเคย ตัวเลือกเดียวสำหรับเรานั้นก็คือการโทรติดต่อ ซึ่งก็น่าเบื่อหน่าย เพราะว่าเราแค่อยากถามอะไรสั้น ๆ นิดเดียว

ตัวแทนของ InterServer นั้นน่าผิดหวัง เขาดูเหมือนจะเข้าใจภาษาอังกฤษได้ไม่ดีสักเท่าไรเลย (ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เนื่องจากมันเป็นภาษาเดียวที่พวกเขาให้บริการ) และเขาก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าความเร็วในการโหลดนั้นขึ้นกับระยะห่างจริงของศูนย์ข้อมูล SiteGround นั้นก็มีปัญหาในเรื่องของเซลล์เช่นกัน

ช่องทางฝ่ายสนับสนุน

ในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง เราอยากจะสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้ในเวลาที่เราต้องการ ด้วยวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับเรา เราต้องการไลฟ์แชทและตัวเลือกในการติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล และ ticket

โฮสทั้งหมดนั้นต่างก็มีบริการสนับสนุนผสม ๆ กันระหว่างแชท, ticket และโทรศัพท์ บางรายอย่าง InMotion Hosting จะจำกัดการโทรหาฝ่ายสนับสนุนลูกค้าไว้ให้เฉพาะในบางแผน ในขณะที่รายอื่น ๆ นั้นจะไม่มีให้เลย และถึงแม้ว่าโฮสจะมีช่องทางฝ่ายสนับสนุนให้ทั้งหมด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะตอบสนองไวและจะช่วยเหลือได้อย่างมีประโยชน์ Nexcess นั้นจะตอบสนองได้ไวมาก ๆ ผ่านทางไลฟ์แชท และก็หาวิธีแก้ปัญหาได้เร็วไม่แพ้กัน Hostinger นั้นตอบสนองได้ไม่เร็ว แต่ก็ยังช่วยเหลือได้ดีอยู่

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าภายในองค์กร

ในการจะมอบบริการสนับสนุนได้ดีที่สุดนั้น ทีมงานควรจะต้องเป็นทีมงานภายในองค์กร หรือก็คือควรจะอยู่ในอาคารเดียวกันกับช่างเทคนิค เซลล์ และบุคลากรอื่น ๆ การ outsource ฝ่ายสนับสนุนลูกค้านั้นจะเป็นการประหยัดงบได้อย่างมากสำหรับโฮส แต่จะกลายเป็นความโกลาหลสำหรับคุณ เมื่อคุณต้องพูดคุยกับตัวแทนรูปแบบนั้น ก็คาดได้เลยว่าคุณจะเจอกับคนที่ไม่รู้จริง และบางครั้งก็ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ เขาจะทำได้เพียงพูดตามสคริปต์ที่เตรียมเอาไว้

การ outsource นั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่เรื่องภาษาอาจจะกลายเป็นปัญหาได้ ถ้าโฮสทำการ outsource พวกเขาจะต้องทำการฝึกฝนตัวแทนบริการลูกค้าอย่างเพียงพอด้วย นี่เป็นสิ่งที่พวกเราเห็นว่า IONOS และ InterServer ยังใส่ใจไม่ดีพอ

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคำนึงถึงราคาของ IONOS ระหว่างการทดสอบ (฿32 ต่อเดือนสำหรับการโฮสเป็นเวลาหนึ่งปี!) คุณก็คงจะเข้าใจเหตุผลได้ โฮสติ้งราคาถูกนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป บางครั้งมันจะดีกว่าถ้าคุณจ่ายเงินเพิ่มอีกสักเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ได้บริการของโฮสที่จัดสรรงบประมาณของพวกเขาไปกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้า

ความพร้อมใช้งาน

ตอนที่เราติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้า เราก็อยากให้ทางตัวแทนพร้อมให้บริการ 24/7 และสามารถตอบคำถามของเราได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งสำหรับมาตรฐานของเราก็คือภายในไม่กี่นาที เราได้รวบรวมข้อมูลตามที่พวกเขาแจ้งว่าให้บริการตอนไหนบ้าง และจริง ๆ แล้วต้องใช้เวลาขนาดไหนกว่าที่เราจะได้รับบริการสนับสนุน

โฮสทุกรายนั้นโฆษณาว่ามีบริการสนับสนุนลูกค้า 24/7 แต่ในบางกรณี นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นจริง Hostinger และ Kinsta นั้นใช้เวลานานมากกว่าจะตอบคำถามของเราผ่านทางไลฟ์แชท บางครั้งทำให้เรารอเป็นชั่วโมงหรือนานกว่านั้นอีก ผู้ช่วย AI ใหม่ของ Hostinger ที่ชื่อว่า Kodee นั้นก็พอช่วยได้เกี่ยวกับการตอบคำถามสำหรับการแก้ปัญหาขั้นพื้นฐาน

ความช่วยเหลือ

ตัวแทนสนับสนุนลูกค้าจะมีประโยชน์อะไรถ้าตอบสนองเร็ว แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อโดเมนไปยังบัญชีโฮสติ้ง หรือไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการติดตั้ง SSL certificate แบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์ เราได้ติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของแต่ละผู้ให้บริการอยู่หลายครั้ง และเราก็เข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานโดยรวมแล้ว

พูดกันตรง ๆ สำหรับ InterServer และ IONOS นั้นคาดหวังความช่วยเหลือทางไลฟ์แชทไม่ได้เลย ทางตัวแทนไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาเพื่อทำงานนี้ และก็มีตัวตนอยู่เพียงแค่เหมือนเป็นภาพลวงตาว่ามีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าแล้ว InterServer นั้นไม่มีตัวแทนอยู่จริงผ่านระบบ ticket ดังนั้นเราก็เลยต้องเลิกใช้บริการทางแชทไปโดยปริยาย

SiteGround, HostArmada, Nexcess, และ Kinsta นั้นเรียกได้ว่าคนละเรื่องกับก่อนหน้านี้เลย โฮสเหล่านี้ เข้าใจ การโฮสติ้ง พวกเขามีประสบการณ์เกี่ยวกับมัน พวกเขาสามารถจัดการปัญหาของเราได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วและง่ายดาย

แล้วที่เหลือล่ะ? ก็ดีบ้างแย่บ้าง ยกตัวอย่าง FastComet นั้นมีตัวแทนคนหนึ่งที่พยายามจะติดตั้งเว็บไซต์ของเราใหม่เพื่อพยายามจะแก้ปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้อง อีกตัวแทนหนึ่งก็เป็นนักเพิ่มประสิทธิภาพมือฉมัง เขาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการเพิ่มความเร็วในการโหลดให้กับเว็บไซต์ของเรา และเราก็ให้เกรด 4 เลยสำหรับคนนี้

บริการให้เกินที่สัญญาไว้

บางครั้งคุณอาจต้องการให้ช่วย แต่ปัญหาบางเรื่องก็ไม่อยู่ในข้อตกลงระดับการบริการ ในหลาย ๆ ครั้งทางตัวแทนนั้นจะรู้ว่าต้องทำยังไง มันขึ้นกับพวกเขาว่าจะทำให้คุณเป็นลูกค้าที่มีความสุข หรือพวกเขาจะทำตามกฎและข้อบังคับ จากนั้นก็แค่พูดว่า “ขอโทษ! นั่นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ!” แบบหลังนี่ก็ไม่ได้ผิดอะไร จริง ๆ นะ แต่ถ้าคุณต้องการชนะใจเรา คุณก็ต้องพยายามให้มากกว่าปกติ

InterServer นั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะว่าไม่ต้องพูดถึงเกินสัญญา แค่ที่สัญญาไว้มันก็ล้มเหลวแล้ว Nexcess นั้นพร้อมจะช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นตอนที่ตัวแทนของ Nexcess ติดตั้งธีม WordPress ให้เรา ในขณะที่นี่มันเป็นการที่ต้องคลิกแค่ที่เดียว แทบไม่ต้องคิดอะไร แต่โฮสรายอื่น ๆ จะบอกกับคุณให้ไป Google ดู หรือไม่ก็ให้มองหาปุ่มดู FastComet นั้นก็ได้คะแนนสูงในหมวดหมู่นี้เช่นกัน แต่มันก็ขึ้นกับตัวแทนที่คุณได้รับ ขึ้นกับว่าวันนั้นท้องฟ้าจะสดใสหรือจะมืดมน

ผู้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัยเลยน่ะหรอ? GreenGeeks ไม่ได้พูดเกินจริงเลยว่าพวกเขาต้องการช่วยเหลือ เป็นอย่างมาก พวกเขาจะนั่งคุยกับคุณเป็นชั่วโมงเพื่อสอนวิธีใช้ WordPress ครั้งแรกให้กับคุณ พวกเขาจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณ พวกเขาจะจัดการให้ทุกปัญหาเท่าที่คิดได้ และก็จะให้ข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบในทุกขั้นตอน พวกเขาดีที่สุดแล้ว

ราคา

ตัวเลือกโฮสติ้งที่ดีที่สุดจะต้องมีความสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่าของบริการที่มอบให้คุณ พวกเขาเองก็ต้องจ่ายเงินจ้างช่างเทคนิคและตัวแทนสนับสนุนลูกค้า รวมถึงต้องอัปเกรดและบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาเช่นกัน

ดูโค้ดโปรโมชั่นสำหรับโฮสทั้งหมดนี้

ราคารายเดือนสำหรับแผนขั้นเริ่มต้น

นี่เป็นราคารายเดือนของแผนแบบแชร์โฮสติ้งขั้นพื้นฐาน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจำ (และคำนึงถึง) ว่าโฮสบางรายซึ่งรวมถึง SiteGround, HostArmada, Kinsta และ Nexcess นั้นจะมีแผนโฮสติ้งแบบคลาวด์เป็นขั้นเริ่มต้น

โฮสส่วนใหญ่ในรายการนี้นั้นยังมีส่วนลดให้เยอะสำหรับลูกค้ารายใหม่ด้วย แต่อ่านเงื่อนไขดี ๆ ยกตัวอย่างเช่น IONOS นั้นจะลดราคาบริการโฮสติ้งให้ 12 เดือนเท่านั้น ถึงแม้ว่าคุณจะสั่งซื้อแบบ 3 ปีล่วงหน้าเลยก็ตาม ในขณะที่ Hostinger นั้นจะเปิดให้คุณใช้งานราคาโปรโมชั่นที่ถูกกว่าได้ยาวถึง 4 ปี

สงสัยว่า Kinsta และ Nexcess เป็นยังไงใช่ไหม? ดูตรงนี้เลย ราคารายเดือนขั้นพื้นฐานนั้นจะแพงกว่าโฮสอื่น ๆ ในรายการนี้เป็นอย่างมาก Kinsta นั้นแพงกว่า InterServer ถึง 4 เท่า ซึ่งรายนั้นก็เป็นผู้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าคุณจะจ่ายเงินเป็นรายเดือน แต่ราคาก็ยังถือว่ายุติธรรมมาก ๆ อยู่ $2.50

ราคาสำหรับแผนแบบรายปี

เคล็ดลับทั่วไปในการที่จะได้ราคาดีที่สุดสำหรับผู้ให้บริการโฮสติ้งส่วนใหญ่ก็คือการสมัครใช้งานแผนที่มีระยะยาวที่สุด ในตารางด้านบน เราได้รวมราคารายเดือนไว้ ในกรณีที่คุณสมัครใช้งานกับโฮสเป็นเวลาหนึ่งปี

Hostinger นั้นกลายเป็นโฮสที่มีตัวเลือกราคาถูกที่สุดในประวัติของเว็บโฮสติ้ง… ถ้าคุณสมัครใช้งานเป็นเวลาสี่ปี มันเป็นราคาที่เยี่ยมมาก แต่มันก็ขึ้นกับคุณว่าความต้องการของคุณจะเปลี่ยนไปในสี่ปีหรือไม่เนื่องจากแผนคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

ระยะเวลาการชำระเงิน

บางคนอยากจะสมัครใช้งานกับบริการและเริ่มธุรกิจซึ่งคุณรู้ว่ามันจะคงอยู่ไปอีกนาน คุณก็อาจจะไม่มีปัญหากับการสมัครใช้งานเป็นเวลาล่วงหน้าหลายปี แต่คนอื่น ๆ ก็อาจจะต้องการความยืดหยุ่น การชำระเงินรายเดือนนั้นจะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนใจและเปลี่ยนแผนได้ในเดือนถัดไป

โชคดีที่โฮสที่เราแนะนำส่วนใหญ่นั้นมีแผนแบบรายเดือน รวมถึงตัวเลือกที่มีระยะเวลายาวกว่าตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึงสูงสุด 4 ปีของ Hostinger มีแค่เรื่องราคานี่แหละที่คุณต้องระวังเอาไว้ Hostinger, IONOS, HostArmada, และ InterServer นั้นใจกว้างมากที่สุด โดยมีราคารายเดือน (แบบราคาเต็มไม่มีส่วนลด) เริ่มต้นอยู่ไม่ถึง ฿320/เดือน

ตัวเลือกการชำระเงิน

การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตนั้นก็โอเค และตัวเลือกเดบิตกับเช็คอิเล็กทรอนิกส์ก็ดีเช่นกัน และเราก็ชอบที่มีตัวเลือกอื่น ๆ อย่าง Bitcoin ด้วย แต่เมื่อพูดถึงบริการโฮสติ้งหรือการทำธุรกรรมออนไลน์ใด ๆ แล้ว พวกเรามักจะแนะนำ PayPal เพราะว่ามันเชื่อถือได้มากกว่าสำหรับการขอคืนเงิน โฮสส่วนใหญ่ใน 10 อันดับแรกของพวกเรานั้นจะมีตัวเลือกนี้ แต่คุณก็สามารถเลือกดูตัวเลือกเพิ่มเติมจากรายการบริการโฮสติ้งที่ดีที่สุดที่รับชำระเงิน PayPal ได้

Kinsta นั้นน่าประหลาดใจมากที่สุด มันไม่มี PayPal ให้เลือก มันยังยึดติดกับการใช้บัตรเครดิตเหมือนอย่างกับว่าเรายังอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1990 อยู่

ไม่มีการเพิ่มยอดขายอัตโนมัติ

ตอนที่สมัครใช้บริการ โฮสบางรายจะเพิ่มบริการเสริมที่คุณไม่ได้ขอให้โดยอัตโนมัติ เพราะ…พวกเขาต้องการให้คุณจ่ายเงินเพิ่ม มันเป็นวิธีปฏิบัติในทางธุรกิจที่ดูลับ ๆ ล่อ ๆ และน่ารังเกียจ

ผู้ที่ทำผิดเรื่องนี้มากที่สุดเลยก็คือ SiteGround และ InMotion Hosting พวกเขาดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองรู้ดีกว่าคุณ และก็เพิ่มบริการสำรองข้อมูลหรือส่วนเสริมอื่น ๆ ที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงจนเลยของ Kinsta ไปเลย เราแนะนำให้คุณระวังมาก ๆ ในระหว่างขั้นตอนการสมัครใช้งาน

ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง

ค่าธรรมเนียมแฝงนั้นก็น่ารำคาญไม่แพ้กับการเพิ่มยอดขาย นี่เป็นค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด โดยมักจะโผล่มาตอนที่คุณพร้อมจะซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว ชื่อสิ่งที่ดูเหมือนแต่งขึ้นมาอย่าง “ค่าธรรมเนียมการตั้งค่า” (พวกนี้จริง ๆ มันอัตโนมัติทั้งหมด) ไม่ได้มีใครมา “ตั้งค่า” บัญชีใหม่ให้คุณ) แล้วยิ่งถ้ามาพร้อมกับราคาถึง ฿480 นี่ยิ่งเป็นสิ่งไม่โอเคสำหรับเรามาก ๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่เราชอบเรียกว่าค่าธรรมเนียม “รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ” ที่เกี่ยวข้องกับบริการที่คุณควรจะระวังเอาไว้ เพราะแบบนี้โฮสในรายการของเราจึงมีการตั้งราคาที่โปร่งใส หรือมีการเพิ่มยอดขายที่น้อยมาก ๆ ระหว่างการชำระเงิน

การรับประกันคืนเงิน

ถ้าคุณเลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ใช้งานได้ไม่ดี คุณก็คงอยากจะบอกลากับพวกเขาและขอเงินคืน โชคดีที่โฮสทั้งหมดในรายการของเรานี้มีการรับประกันคืนเงิน หรือมีให้ทดลองใช้ฟรี ทำให้คุณสามารถทดลองใช้งานพวกเขาได้อย่างไม่มีความเสี่ยง

เราอยากกล่าวถึงเป็นพิเศษว่า InMotion Hosting นั้นให้เวลาคุณสามเดือนเต็มก่อนที่คุณจะตัดสินใจใช้แผนระยะยาว ซึ่งก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่ใจกว้างมาก ๆ จากที่เราเคยเห็นมา

ชื่อโดเมนฟรี

เราไม่แนะนำให้คุณโฮสเว็บไซต์และซื้อชื่อโดเมนจากผู้ให้บริการเดียวกัน แต่บางครั้งข้อเสนอนั้นก็ดีเกินที่จะไม่คำนึงถึง ในขณะที่โฮสส่วนใหญ่จะโฆษณาว่ามีโดเมนฟรีให้กับการโฮสติ้ง แต่มันก็อาจจะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับนามสกุลโดเมนที่มี

Hostinger, IONOS, HostArmada, GreenGeeks และ InMotion Hosting จะมีชื่อโดเมนฟรีให้คุณตอนที่สมัครใช้งานเป็นเวลาหนึ่งปีหรือนานกว่า ถึงแม้ว่า InterServer จะไม่มีข้อเสนอฟรี แต่มันก็มีตัวเลือกให้คุณซื้อได้ในราคาที่ถูกมาก ๆ ถ้าคุณเลือก Kinsta คุณจะต้องซื้อโดเมนจากบุคคลที่สาม และทำการเชื่อมต่อกับบริการโฮสติ้งของคุณซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวก

การจดทะเบียนชื่อโดเมน

แม้ว่าคุณจะสมัครใช้งานด้วยโดเมนฟรี ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะไม่ฟรีตลอดไป ในปีที่สอง คุณจะต้องจ่ายเงินเต็มราคา และราคานั้นก็อาจจะแพงกว่าราคาของปีแรกเป็นอย่างมาก FastComet และ Hostinger นั้นจะมีราคาถูกที่สุดจากสิบรายการนี้ (สำหรับโดเมน .com) และผู้ให้บริการรายอื่น ๆ นั้นก็แพงจนน่าประหลาดใจ

แต่จริง ๆ นะ ไม่แนะนำให้คุณซื้อโดเมนจากที่เดียวกันกับที่คุณโฮส ไปเลือกจาก Namecheap หรือ Namesilo ดีกว่า พวกมันมีราคาถูกกว่า เชื่อถือได้มากกว่า และมีการป้องกัน WHOIS ฟรี และถ้าคุณกำลังจะโฮสหลายเว็บไซต์ในแผนโฮสติ้งของคุณ คุณก็คงต้องทำเรื่องนี้ในอีกไม่นาน

เป็นเรื่องที่หายากที่จะเจอโฮสที่มีชื่อโดเมนฟรีให้หลายชื่อ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอนุญาตให้สร้างได้หลายเว็บไซต์ก็ตาม คุณสามารถดูรายการบริการโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับหลายโดเมนเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกดี ๆ ได้

ข้อสรุปสุดท้ายและคำแนะนำ

รู้สึกหลงทางและสับสนหลังจากที่ได้รับข้อมูลทั้งหมดนี้ไปใช่ไหม? เราไม่ได้อยากยกหางตัวเองหรืออะไรหรอกนะ แต่ก็เป็นธรรมดาที่การเปรียบเทียบบริการโฮสติ้งที่ละเอียดที่สุดที่เคยมีมานั้นอาจจะดูชวนสับสนสักเล็กน้อย

ก่อนที่เราจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานในกรณีเฉพาะต่าง ๆ สำหรับแต่ละโฮส เราขอย้ำเรื่องหนึ่งว่า ไม่มีโฮสที่ไม่ดีอยู่ในรายการ 10 อันดับแรกนี้ ไม่มีโฮสคุณภาพกลาง ๆ ในรายการนี้ บริการเว็บโฮสติ้งทั้งสิบรายการนี้ต่างก็มีบริการที่พึ่งพาได้ มีคุณภาพ และการจัดอันดับนี้ก็เป็นการจัดอันดับเพื่อแข่งขันกันเองภายในรายการนี้

ทีนี้มาดูกันว่าโฮสรายใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

Hostinger: เว็บโฮสที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ WordPress ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งมีแผนระยะยาวที่ถูกที่สุด

เราขอพูดตรง ๆ เลยนะ: ถ้าคุณจะเปิดเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจสำคัญหรือเปิดร้านอีคอมเมิร์ซที่อาจจะต้องเจอกับทราฟฟิคที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อย่าเลือกแผนแบบแชร์โฮสติ้งของ Hostinger เลย แผนแบบแชร์โฮสติ้งนั้นจะดีที่สุดสำหรับโครงการอย่างบล็อก พอร์ตโฟลิโอ และธุรกิจที่ต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณกำลังต้องการจะทำ ก็ให้เลือกแผนระยะยาวและเริ่มเพลิดเพลินกับบริการโฮสติ้งที่ถูกที่สุดในโลกได้เลย

การทดสอบของเรานั้นก็แสดงให้เห็นด้วยว่า Hostinger นั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าโฮสรายอื่น ๆ เกือบทั้งหมดในแง่ของความเร็ว และการที่แผงควบคุมใช้งานง่ายนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ด้วย นอกจากนี้ Hostinger ยังมีบริการ VPS และคลาวด์โฮสติ้งด้วยซึ่งก็เป็นตัวเลือกในอุดมคติถ้าคุณชอบความเร็วอยู่แล้ว แต่ต้องการทรัพยากรเพิ่ม

IONOS: เข้าถึงคุณสมบัติพรีเมียมสำหรับนักพัฒนาและธุรกิจขนาดเล็กได้ในราคาที่ถูกที่สุด

ถึงแม้ว่ามันจะมีราคาถูก แต่ IONOS นั้นก็มีคุณสมบัติแบบอัดแน่น ความสามารถในการปรับขนาดได้นั้นจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถรองรับทราฟฟิคที่เพิ่มมากขึ้นได้ในทันที ในขณะที่โฮสราคาถูกส่วนใหญ่จะปล่อยให้เว็บไซต์ของคุณหยุดทำงาน การที่มันมีส่วนลดให้สำหรับลูกค้ารายใหม่อยู่เป็นประจำนั้นก็เป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่โปรดทราบว่าถึงแม้ IONOS จะมีตัวแทนสนับสนุนลูกค้า แต่คุณภาพบริการก็ยังควรปรับปรุงให้ดีกว่านี้อยู่

SiteGround: เว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับทุกระดับพร้อมมีแผงควบคุมที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน

ด้วยแผงควบคุมที่ปรับแต่งเองและโครงสร้าง Google Cloud ทำให้ SiteGround นั้นเป็นโฮสติ้งสายผสมระหว่างแบบ managed และคลาวด์โฮสติ้งที่เชื่อถือได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่คล่องตัวหรือใช้งานง่ายเหมือนกับบริการโฮสติ้งแบบ managed ที่มีราคาแพงกว่า แต่มันก็ได้พยายามช่วยให้ชีวิตคุณขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว สงสัยใช่ไหมว่าแล้วมันมีปัญหาอะไร? ปัญหาก็คือเรื่องราคานั่นเอง โฮสติ้งแบบ managed นั้นมักจะมีราคาที่แพงกว่าโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต่ออายุและ SiteGround ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

HostArmada: คลาวด์โฮสติ้งที่เร็ว เชื่อถือได้ และราคาไม่แพงจนเกินไป

HostArmada นั้นผสมผสานระหว่างความปลอดภัย ความเร็ว และราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อที่จะมอบแผนโฮสติ้งที่มีความคุ้มค่า และมีราคาเป็นมิตรให้กับคุณ คุณจะได้รับคุณสมบัติที่ดีกว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่อย่างเช่นการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน และบริการที่เน้นลูกค้ามาก่อนซึ่งเทียบเคียงได้กับผู้ให้บริการโฮสติ้งระดับชั้นนำส่วนใหญ่ HostArmada นั้นเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ ถ้าคุณต้องการพื้นที่ที่เป็นมิตรและมีความครอบคลุมสำหรับโฮสบล็อก พอร์ตโฟลิโอ หรือเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก

InterServer: เว็บโฮสที่ดีที่สุดสำหรับแผนการโฮสแบบแชร์และ VPS hosting ในระยะสั้น

แผนแชร์โฮสติ้งขั้น Standard ของ InterServer นั้นมีข้อดีหลัก ๆ อยู่สองประการ: ทรัพยากรส่วนใหญ่นั้นไม่จำกัด และค่าบริการรายเดือนของมัน (ถ้าไม่มีการผูกมัดล่วงหน้า) นั้นมีราคาเพียง ฿225 เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคุณจะได้รับส่วนลดสูงสุด 65% สำหรับการโฮสครั้งแรก ซึ่งก็สามารถรองรับได้นานถึง 2 ปีในราคาเพียง $2.50/เดือน คุณยังสามารถลองใช้ VPS hosting ของมันได้หนึ่งเดือนในราคาเพียงหลักสตางค์เองอีกด้วย

GreenGeeks: เว็บโฮสที่มีแผนราคาไม่แพงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด (ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าก็ดีมากด้วย)

พวกเราอยากแนะนำ GreenGeeks เป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้น ทีมงาน GreenGeeks นั้นพร้อมจะช่วยเหลือและร่วมเดินทางสำหรับการโฮสติ้งเว็บไซต์ไปพร้อมกับคุณ แถมคุณจะได้ส่วนลดเยอะมากเป็นเวลาถึงหนึ่งปีอีกด้วย ข้อจำกัดหลัก ๆ ของมันก็คือความเร็วในการโหลดที่ช้ากว่าสำหรับโอเชียเนียและเอเชีย แต่ด้วย CDN ฟรี นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเราพูดหรือยังว่าเราชื่นชม GreenGeeks ที่พวกเขามีความมุ่งมั่นในการใช้เฉพาะพลังงานหมุนเวียน?

Nexcess: ดีที่สุดสำหรับคลาวด์โฮสติ้งอีคอมเมิร์ซแบบ managed

Nexcess นั้นเป็นโฮสระดับพรีเมียมที่ราคาก็พรีเมียมตาม แต่ถ้าเทียบกับบริการแบบ managed ที่คล้ายกันแล้ว มันก็มีราคาที่ถูกอยู่พอตัว มันบริการโฮสติ้งแบบ managed ที่ครอบคลุมสำหรับอีคอมเมิร์ซหลายแพลตฟอร์ม มันจะครอบคลุมในอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลีย โดยรวมแล้ว Nexcess นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมากถ้าคุณพร้อมจะย้ายร้านอีคอมเมิร์ซของคุณไปไว้บนแพลตฟอร์มที่ทรงพลังกว่า แต่คุณยังอยากให้โฮสติ้งนั้นมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ

InMotion Hosting: เว็บโฮสที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจใหม่ ซึ่งมีระยะเวลารับประกันคืนเงินที่นานกว่า

หลังจากที่สมัครใช้งาน InMotion Hosting แล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงฐานความรู้ที่อาจจะเรียกได้ว่าละเอียดที่สุดได้ในทันที ทุกขั้นตอนที่เกี่ยวกับการโฮสติ้งเว็บไซต์นั้นจะถูกระบุเอาไว้อย่างชัดเจน และคุณก็จะสามารถเริ่มต้นจากศูนย์ไปจนงานสำเร็จได้ ยิ่งไปกว่านั้น InMotion ยังมีการรับประกันคืนเงินให้เป็นเวลาถึง 90 วัน นั่นเป็นเวลาที่ยาวนานถึงสามเท่าของที่ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ มีให้ ลองใช้ดู ไม่ต้องรีบ และถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่เหมาะสำหรับคุณ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้ก่อนที่จะหมดเวลาสามเดือน

Hosting.com (เดิมชื่อ A2 Hosting): เว็บโฮสที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเน้นความเร็ว

Hosting.com (เดิมชื่อ A2 Hosting) นั้นทำได้ดีในหลาย ๆ หมวดหมู่ของการทดสอบของเรา แต่มันก็ไม่ได้ดีที่สุดในหลาย ๆ หมวดหมู่เช่นกัน แต่คุณสมบัติหนึ่งที่มีความโดดเด่นของมันก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพฟรีสำหรับการโฮสติ้งแบบแชร์และ WordPress ในขณะที่มันไม่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์เหมือนอย่าง Kinsta หรือ SiteGround แต่ประสิทธิภาพของมันในอเมริกาเหนือและบางพื้นที่ในยุโรปตะวันตกนั้นก็ดีมาก ๆ

Kinsta: บริการโฮสติ้งสำหรับ WordPress ระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด (ถ้าคุณพร้อมที่จะจ่าย)

แพงกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่าเสมอไป แต่ในกรณีของ Kinsta นี้เรียกได้ว่าสมราคาจริง ๆ มันอาจจะดูแพงเกินงบประมาณของคุณ แต่จากการทดสอบการโฮสติ้งแบบ managed ที่ใช้โครงสร้าง Google Cloud ของ Kinsta นั้น พวกเราก็พบว่ามันมีความเร็วในการโหลดที่ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ โปรดทราบว่ามันจะรองรับเฉพาะ WordPress เท่านั้น และก็ไม่มีอีเมลโฮสติ้งและไม่มีโดเมนให้ หมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนเพิ่มจากค่าบริการโฮสติ้งอีก

คำถามที่พบบ่อย

ฉันสามารถเปลี่ยนผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งได้หรือไม่?

ได้ ถ้าคุณไม่พอใจกับเว็บโฮสปัจจุบันของคุณ ก็ให้คุณทราบไว้ว่าเว็บโฮสส่วนใหญ่ในรายการนี้จะมีบริการย้ายเว็บไซต์ให้ฟรี ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าหลังจากที่สมัครใช้งานบริการใหม่ และทางตัวแทนก็จะช่วยจัดการทุกอย่างให้คุณเอง โฮสบางรายอย่าง InterServer จะช่วยทำความสะอาดเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กให้ด้วยในกระบวนการของพวกเขา However โปรดทราบว่าการย้ายเว็บไซต์นั้นมักจะจำกัดไว้ให้แค่หนึ่งเว็บไซต์

เว็บโฮสรายใดที่เหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก?

Hostinger นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมและมีราคาไม่แพง ถ้าคุณกำลังต้องการแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจหรือพอร์ตโฟลิโอของคุณ แต่เราไม่แนะนำถ้าคุณจะใช้มันไปเปิดร้านอีคอมเมิร์ซที่มีลูกค้าและมีผลิตภัณฑ์เยอะ ถ้าคุณต้องการอะไรแบบนั้น เราแนะนำให้เลือก แผนอีคอมเมิร์ซแบบ managed ของ Nexcess แทน.

เว็บโฮสรายใดมี SSL ฟรีให้?

โฮสทั้งหมดในรายการ 10 อันดับที่ดีที่สุดมี SSL certificate ให้ฟรีในปัจจุบัน ตั้งแต่ Let’s Encrypt SSL ไปจนถึง SSL พรีเมียมจาก DigiCert และ Comodo โปรดทราบว่าบางครั้งโฮสก็สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติในแผนได้ ดังนั้นระหว่างการสมัครใช้งาน ขอให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าพวกเขามี SSL certificate ให้ สำหรับความปลอดภัยที่ดีที่สุด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอีคอมเมิร์ซหรือเว็บไซต์ที่เก็บข้อมูลของผู้เยี่ยมชม) พวกเราแนะนำให้ติดตั้ง SSL แบบจ่ายเงิน

ฉันสามารถโฮสเว็บไซต์ฟรีได้หรือไม่?

บริการโฮสติ้งฟรีนั้นมีให้ใช้ได้อยู่ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายเงิน แต่คุณอาจจะสูญเสียในแง่ของผู้เยี่ยมชมแทน บริการฟรีนั้นมักจะช้า เชื่อถือไม่ได้ และไม่ปลอดภัย และถ้าคุณใช้บริการเหล่านั้น คุณก็ควรจะเตรียมพร้อมสำหรับ downtime บ่อยครั้ง การที่เว็บของคุณอาจถูกแฮ็ก ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือถูกใช้เพื่อทำการสแปม จะดีกว่าถ้าสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง และก็เลือกใช้บริการคุณภาพดีที่เกือบฟรีอย่าง Hostinger

เว็บโฮสไหนที่สุดสำหรับ WordPress?

ในขณะที่โฮสทั้งหมดในรายการนี้รองรับ WordPress อย่างเต็มรูปแบบ แต่การใช้งานของมันก็จะแตกต่างกันออกไป ถ้าคุณกำลังต้องการจะสร้างบล็อก WordPress หรือเว็บไซต์ธุรกิจแบบเรียบง่ายในราคาประหยัด Hostinger ก็ควรจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คุณคำนึงถึงเลย อีกตัวเลือกหนึ่ง InterServer นั้นก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโครงการที่ต้องการทรัพยากรน้อยหลายโครงการ อย่างหลายหน้าแลนดิ้งเพจ ในขณะที่ Nexcess และ Kinsta จะรองรับอีคอมเมิร์ซบน WordPress ได้เป็นอย่างดี คุณสามารถดูรายการ โฮสสำหรับ WordPress 10 อันดับแรกในปี2025 เพื่อค้นหาตัวเลือกเพิ่มเติม