เนื้อหาในบทความ
วิธีที่ 1: การติดตั้งอีเมลธุรกิจด้วย Hostinger (hPanel)
คุณสามารถใช้แผงควบคุมที่มาพร้อม Hostinger เพื่อติดตั้ง อีเมลธุรกิจในราคาน้อยมากอยู่ที่$2.99 ต่อเดือน ไม่มีบริการโฮสติ้งเจ้าไหนอีกแล้วที่จะมีราคาถูกได้ขนาดนี้ และแม้ว่า hPanel จะไม่มีให้บริการใน ภาษาไทย มันก็ยังใช้งานง่ายกว่าอยู่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับ cPanel และ Plesk ซึ่งทำให้มันเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือใหม่ และนอกจากนี้ ผลการทดสอบของเราพบวา Hostinger ทำคะแนนได้ยอดเยี่ยมทางด้านความเสถียรและประสิทธิภาพ!ขั้นที่ 1 – เลือกชื่อโดเมนและแผนบริการเว็บโฮสติ้ง
เมื่อใช้ Hostinger คุณจะได้รับสองตัวเลือกเพื่อโฮสต์อีเมลธุรกิจ โดยที่คุณสามารถเลือกใช้หนึ่งในแผนบริการโฮสติ้งพร้อมอีเมล และใช้อีเมลโฮสติ้ง อย่างเดียว หรือคุณสามารถเลือกใช้แผนบริการโฮสแบบแชร์ที่มีราคาถูกมาก และใช้อีเมลบวกกับโฮสติ้งเว็บไซต์ในราคาย่อมเยาพอ ๆ กัน สำหรับฉันแล้วนั้นทางเลือกที่สองถือว่าสมเหตุสมผล คุณได้คุณค่าที่คุ้มกับเงินที่เสียไป และคุณสามารถเป็นเจ้าของอีเมลธุรกิจและเว็บไซต์ได้จากที่เดียว แผนบริการสามแบบที่พร้อมใช้งานตามเงื่อนไขดังกล่าวมีดังนี้:
ทั้งแผน Single และ Premium มีราคาที่จับต้องได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้เพียงแค่อีเมลเดียวเท่านั้น แผน Single เป็นตัวเลือกที่ราคาถูกกว่า และแม้ว่าชื่อโดเมนจะไม่ได้รวมเข้าไปอยู่ในราคาดังกล่าว คุณก็ยังสามารถซื้อชื่อแยกได้ในราคาที่ถูก
และหากคุณต้องใช้อีเมลมากกว่าหนึ่งบัญชี แผน Premium จะถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะคุณจะได้รับที่อยู่อีเมลมากกว่า 100 บัญชี พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากกว่า และชื่อโดเมนฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี
เมื่อคุณเลือกแผนบริการและชำระค่าบริการแล้วคุณจะสามารถเพิ่มชื่อโดเมนผ่านทาง hPanel ได้
ขั้นที่ 2 – เข้าระบบไปยังแดชบอร์ดเพื่อเข้าใช้งาน hPanel
ในการเข้าใช้งาน hPanel ให้คลิกที่ปุ่ม “Log in” ในเว็บไซต์ของ Hostinger หรือพิมพ์ที่อยู่เว็บไซต์ hpanel.hostinger.com ลงไปในเบราว์เซอร์ของคุณ จากนั้นคุณจะได้พบกับหน้าจอนี้ ซึ่งคุณสามารถใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ได้จาก Hostinger:
ง่าย ๆ แค่นี้เอง
ขั้นที่ 3 – สร้างที่อยู่อีเมล
หากต้องการสร้างและจัดการอีเมลเพื่อธุรกิจของคุณให้คลิกที่ปุ่ม “Email” ที่อยู่ตรงด้านบนของหน้าจอ หรือตรงเมนูด้านข้าง ทั้งสองปุ่มนี้ใช้งานได้เหมือนกัน จากนั้นให้ไปที่ “Email Account” โดยใช้เมนูที่อยู่ด้านซ้ายของหน้าจอ
ตรงด้านล่างของหน้าจอปัจจุบันนี้ คุณจะพบกับแบบฟอร์มที่ให้คุณสามารถสร้างที่อยู่อีเมลใหม่ได้ ให้คุณพิมพ์ที่อยู่และรหัสผ่าน จากนั้นกด “Create”
ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้ว โดยคุณสามารถตรวจสอบกล่องอีเมลขาเข้าได้โดยไปที่หน้าจอ “Email Accounts” และเลื่อนหน้าจอลงมาจนถึงหัวข้อ “Manage Email Accounts” ตรงตำแหน่งถัดจากที่อยู่อีเมล คุณจะเห็นปุ่มสีฟ้าที่มีสัญลักษณ์รูปซองจดหมาย ให้คลิกที่นี่เพื่อเข้าใช้งานเว็บเมลไคลเอ็นต์
ขั้นที่ 4 – การกำหนดค่าที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
ในหัวข้อเดียวกันที่คุณ “Manage Email Accounts” ให้คุณคลิกปุ่มฟันเฟืองสีดำเพื่อกำหนดค่าที่อยู่อีเมลที่เลือก
คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านปัจจุบัน จัดการการป้องกันสแปม/ป้องกันไวรัส และจัดสรรพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมให้กล่องข้อความขาเข้าของคุณได้ที่หน้าจอป๊อบอัพนี้ โดยทุกฟังก์ชันจัดเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบในหน้าต่างนี้ที่เดียว:
นอกจากนี้ hPanel ยังมีเครื่องมือการกำหนดค่าอื่น ๆ อีกสามเครื่องมือที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อติดตามอีเมลของคุณได้ คุณสามารถไปที่เครื่องมือเหล่านี้ได้ที่ด้านซ้ายมือของหน้าจอ บริเวณใต้หัวข้อ “Emails”:
เมื่อคลิกที่ “Email Forwarders” คุณจะพบกับหน้าจอนี้ ซึ่งคุณสามารถพิมพ์อีเมลที่คุณต้องการส่งต่อ และอีเมลที่คุณต้องการส่งต่อข้อความที่เหมือนกัน:
คุณสามารถใช้โปรแกรมส่งต่ออีเมลเพื่อสร้างกลุ่มข้อความที่ถูกส่งไปยังอีเมลธุรกิจที่แตกต่างกันได้ (ยกตัวอย่างเช่น ส่งข้อความไปยังแผนกขายและแผนกบริการลูกค้า) หรือคุณสามารถส่งต่ออีเมลทั้งหมดไปยังลูกค้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากคุณต้องการที่จะใช้ Gmail คุณสามารถพิมพ์ที่อยู่ Gmail ลงในช่องที่สองได้
และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ค่อนข้างจะไม่เหมือนใครของ Hostinger คือเครื่องมือ “Catch-All Emails” โดยคุณสมบัตินี้จะทำให้คุณสามารถรับอีเมลที่ถูกส่งไปยังที่อยู่ที่สะกดผิด และส่งต่ออีเมลเหล่านั้นไปอย่างที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องได้ ในการตั้งค่าคุณสมบัตินี้ คุณเพียงต้องเลือกโดเมน จากรายการดรอปดาวน์ และเลือกที่อยู่เพื่อให้ส่งต่อ
ในที่สุด คุณก็สามารถสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติด้วยแบบฟอร์มนี้ได้แล้ว:
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่อยู่ประจำสำนักงานหรือหยุดพักร้อน คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบได้ นอกจากนี้การตั้งค่าแบบกำหนดเองที่อยู่ตรงบริเวณด้านล่างของหน้าจอจะให้คุณสามารถกำหนดเวลาการตอบสนองอัตโนมัติได้ล่วงหน้า ดังนั้นคุณจึงสามารถสร้างข้อความไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วลืมมันไปได้เลย
โดยสรุปแล้วนั้น Hostinger มีเครื่องมือเหมือน ๆกับที่คุณจะได้ใช้ใน cPanel หรือ Plesk แต่จะมีให้ในราคาที่ถูกกว่า มันเป็นแผงควบคุมที่ใช้เฉพาะกับโฮสต์นี้เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และคุณก็ไม่จำเป็นต้องคลิกผ่านหลายตัวเลือกเพื่อกำหนดค่าที่อยู่อีเมลของคุณอีกด้วย
วิธีที่ 2: การตั้งค่าอีเมลธุรกิจของคุณใน cPanel
ผู้ให้บริการโฮสติ้งแบบแชร์ส่วนใหญ่จะใช้ cPanel แผงควบคุมนี้มีหน้าตาที่ไม่ได้สวยงามมากนัก แต่มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและสะดวกมากหากคุณได้เรียนรู้วิธีการใช้อย่างถูกต้อง โดยแผงควบคุมนี้มีให้บริการในหลายภาษาซึ่งรวมถึง ภาษาไทย ด้วยขั้นที่ 1 – เลือกชื่อโดเมนและแผนบริการเว็บโฮสติ้ง
InterServer, GreenGeeks, FastComet, A2 Hosting, และโฮสต์อื่น ๆ อีกมากมายที่มีแผงควบคุม cPanel หากคุณใช้แผนบริการที่มี cPanel อยู่แล้ว คุณสามารถข้ามไปยังขั้นตอนต่อไปได้ ข้อมูลส่วนนี้เป็นการเลือกแผนบริการและชื่อโดเมนสำหรับอีเมลของคุณ ในบริการโฮสติ้งส่วนใหญ่นั้นจะรวมกันลงทะเบียนโดเมนสำหรับการใช้งานในปีแรกเอาไว้ให้ฟรี แต่สำหรับ InterServer แล้วคุณจะไม่ได้สิทธิพิเศษในส่วนนี้ แต่หากคุณเลือกใช้แผนบริการพื้นฐานแบบแชร์ ทางโฮสต์ จะมีส่วนลดสำหรับชื่อโดเมนให้อย่างพิเศษมาก และคุณยังได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ไร้ขีดจํากัด รวมถึงการป้องกันสแปมสำหรับอีเมลของคุณด้วย
GreenGeeks จะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อยหลังจากต่ออายุการใช้งาน แต่ แผนการใช้งานขั้นแรกเริ่ม ของโฮสต์นี้ได้รวมโดเมนฟรี พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไร้ขีดจำกัด และการป้องกันสแปมเอาไว้ให้ ซึ่งถือว่าเป็นชุดคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับอีเมลเพื่อธุรกิจ
ตัวอย่างโฮสต์อาจจะมีให้ไม่กี่เจ้า แต่ถ้าหากให้พูดโดยรวมแล้ว แผนบริการเว็บโฮสติ้งระดับพื้นฐานจาก บริการโฮสติ้งชั้นนำ ก็ให้คุณสมบัติที่มากเกินพอต่อการดำเนินการอีเมลระดับมืออาชีพ คุณสามารถเลือกโฮสต์ที่ชอบ ลงทะเบียน แล้วไปตามขั้นตอนที่สองกันได้เลย
ขั้นที่ 2 – เข้าระบบไปยังแดชบอร์ดเพื่อเข้าใช้งาน cPanel
ในตอนนี้คุณมีโดเมนและโฮสติ้งแล้ว คุณสามารถเข้าใช้งานแผงควบคุม cPanel ตั้งค่าอีเมลธุรกิจของคุณได้ โดยขั้นตอนนี้อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโฮสต์ที่คุณใช้ แต่กฎทั่วไปคือ คุณจะต้องเข้าระบบไปในหน้าแดชบอร์ด และหาปุ่มที่จะพาคุณเข้าไปยังแผงควบคุม cPanel ในครั้งนี้ฉันจะแสดงตัวอย่างหน้าจอเข้าระบบของ InterServer:
เมื่อคุณเข้าระบบแล้ว คุณสามารถเลื่อนลงมาอย่างปุ่มหน้าผู้ดูแลระบบ ตรงนี้คุณจะเห็นปุ่มเข้าใช้งาน cPanel:
หากคุณใช้ Host ที่แตกต่างไปจากนี้แล้วหาทางเข้าแผงควบคุมไม่เจอ โปรดอย่ากังวล ให้คุณเข้าไปที่ฐานความรู้ของทางโฮสต์ และค้นหาหัวข้อ “วิธีเข้าใช้งาน cPanel” เพื่อดูคำแนะนำอย่างละเอียด
ขั้นที่ 3 – สร้างที่อยู่อีเมล
เมื่อคุณเข้าระบบไปยัง cPanel แล้วคุณควรจะได้เห็นหน้าจอดังต่อไปนี้ อย่างที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้าวางแผงควบคุมนี้มีหน้าตาที่ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก แต่ขอให้คุณมองข้ามตรงนี้ไปแล้วมาทำงานให้สำเร็จกัน คลิกที่ “บัญชีอีเมล” เพื่อเริ่ม
จากนั้น ให้คลิกปุ่ม “สร้าง” เพื่อสร้างที่อยู่อีเมลแรกของคุณ
ในหน้าจอต่อไป คุณจะต้องพิมพ์ชื่อผู้ใช้อีเมลของคุณ (เช่น username@yourdomain) และรหัสผ่าน ทั้งนี้คุณสามารถใช้โปรแกรมสร้างรหัสผ่านที่มีให้มากับโฮสต์ หากคุณไม่รู้ว่าจะใช้รหัสผ่านอะไรดี
อีกทั้งระบบจะขอให้คุณจัดสรรปริมาณพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมาให้กับอีเมลของคุณ หากคุณไม่ได้ส่งหรือรับสื่อเป็นจำนวนมาก พื้นที่จัดเก็บ 1GB (หรือ 1024MB) ก็ถือว่าพอเพียงสำหรับแต่ละกล่องจดหมาย แต่ถ้าหากคุณใช้แผนบริการที่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัด คุณก็สามารถทำเครื่องหมายลงในกล่องสี่เหลี่ยมที่เขียนว่า “ไม่จำกัด” ได้เลย
ตรงบริเวณด้านล่างของหน้าจอ คุณจะเห็นตัวเลือกในการรับอีเมลที่มีคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการติดตั้งเมลไคลเอ็นต์ ของคุณ คุณควรทำเครื่องหมายถูกในส่วนของตรงนี้เอาไว้ด้วย
นี่คือตัวอย่างของหน้าจอก่อนที่คุณจะกดปุ่ม “สร้าง”:
เพียงแค่นี้เอง! หากต้องการเข้าดูกล่องข้อความขาเข้า ให้คุณหาชื่ออีเมลในหน้าจอ “บัญชีอีเมล” และคลิกที่ปุ่ม “เข้าดูอีเมล”:
ขั้นที่ 4 – การกำหนดค่าที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
เมื่อคุณสร้างอีเมลเพื่อธุรกิจของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถคลิกที่ไอคอน “จัดการ” เพื่อเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านและปริมาณพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่แบ่งสรรให้แก่สำหรับแต่ละกล่องข้อความ
คุณสามารถคลิกที่ “เชื่อมต่ออุปกรณ์” เพื่อเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าเมลไคลเอ็นต์ ของคุณได้ โดยเมนูนี้จะพาคุณไปยังหน้าจอที่แลดูซับซ้อน:
หากตัวเลือกเหล่านี้ฟังดูยากเกินไปสำหรับคุณก็ไม่เป็นไร สิ่งเดียวที่คุณควรรู้ก็คือ:- โปรโตคอล IMAP จะเก็บข้อมูลอีเมลของคุณไว้ในเซิร์ฟเวอร์ เพื่อที่คุณจะสามารถเข้าถึงอีเมลได้จากทุกอุปกรณ์ นี่คือการตั้งค่าที่อีเมลไคลเอ็นต์ ส่วนใหญ่ใช้กัน
- โปรโตคอล POP3 จะดาวน์โหลดอีเมลของคุณไปยังอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการเข้าถึงอีเมลนั้น (ยกตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ) จากนั้น โปรโตคอลจะลบอีเมลออกจากเซิร์ฟเวอร์ คุณสามารถใช้การตั้งค่านี้เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในเซิร์ฟเวอร์ หรือในเวลาที่คุณต้องการรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นให้กับอีเมลของคุณ
- “Over SSL/TLS” เป็นวิธีการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า คุณควรเลือกใช้โปรโตคอลนี้เสมอหากมีพร้อมให้ใช้งาน
จากนั้นไปที่ “เพิ่มที่อยู่เพื่อส่งต่อ” เพื่อส่งต่ออีเมลจากที่อยู่หนึ่ง หรือ “เพิ่มโดเมนเพื่อส่งต่อ” เพื่อส่งต่ออีเมลทั้งหมดที่ส่งไปยังโดเมนของคุณ
เมื่อคุณมาถึงหน้าจอที่ถูกต้องแล้ว ให้คุณพิมพ์ที่อยู่อีเมลที่ต้องการส่งต่อ และที่อยู่ที่ต้องการจะส่งต่อทุกอย่างไปให้ เช่น หากคุณต้องการใช้ Gmail ไคลเอ็นต์ ให้คุณพิมพ์ที่อยู่ Gmail ลงในช่องที่สอง
หากคุณต้องการตั้งการตอบอีเมลแบบอัตโนมัติ ให้คุณกลับไปยังหน้าจอหลักของ cPanel และคลิกที่ “ตอบอีเมลอัตโนมัติ”
คลิกที่ “เพิ่มการตอบอีเมลอัตโนมัติ” เพื่อกำหนดวันและเวลาการส่งข้อความอัตโนมัติใหม่ไว้ล่วงหน้า
พิมพ์ที่อยู่อีเมลของคุณและสร้างข้อความที่กำหนดเองให้แก่การตอบกลับอีเมลอัตโนมัติของคุณ เช่น คุณอาจกล่าวว่าสำนักงานของคุณปิดทำการอยู่ในขณะนี้ แต่คุณก็ตอบกลับโดยทันทีหลังจากพ้นวันหยุด (หรือใส่วันที่เฉพาะเจาะจง)
กดปุ่ม “สร้าง” เพื่อเสร็จสิ้นการตั้งข้อความการตอบอีเมลอัตโนมัติ
แม้ว่าจะมีหลายอย่างที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยใช้ cPanel ในคุณสมบัติของอีเมลที่เราได้ตรวจดูคร่าว ๆ นั้นเป็นคุณสมบัติที่คุณจะได้ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน โปรดจำไว้ว่า: ก่อนที่คุณจะสามารถใช้วิธีนี้ในการตั้งค่าและกำหนดค่าอีเมลธุรกิจของคุณได้นั้น คุณจะต้องมีเว็บโฮสติ้งที่ใช้งานแผงควบคุม cPanel ก่อน
วิธีที่ 3: การตั้งค่าอีเมลธุรกิจของคุณใน Plesk
Plesk ไม่ได้เป็นที่นิยมใช้กันเท่า cPanel แต่ฉันคิดว่าแผงควบคุมนี้จัดระเบียบได้ดีกว่าใช้งานได้ง่ายกว่า และเช่นเดียวกับ cPanel ทาง Plesk สามารถรองรับภาษาจำนวนมากอย่างน่าประทับใจ โดยที่ ภาษาไทย ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เรามาดูรายละเอียดของแผงควบคุมตัวนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยขั้นที่ 1 – เลือกชื่อโดเมนและแผนบริการเว็บโฮสติ้ง
ในการสร้างอีเมลธุรกิจด้วย Plesk คุณจะต้องมีเว็บโฮสติ้งที่ใช้แผงควบคุม Plesk แต่น่าเสียดาย มีโฮสต์อยู่ไม่มากนักที่ให้บริการแผงควบคุมดังกล่าวในแผนบริการโฮสติ้งแบบแชร์ที่มีราคาถูก อย่างไรก็ตาม Plesk มักจะเป็นบริการที่รวมเอาไว้กับโฮสติ้งสำหรับ Windows (หรือ ASP.NET) ซึ่งมักจะมีราคาที่แพงกว่า ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้แผงควบคุม Plesk กับแผนบริการโฮสติ้ง ASP.NET ขั้นพื้นฐานของ InterServer พร้อมกับอีเมลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบไม่จำกัด แผนบริการนี้ไม่ได้มีราคาแพงแต่ก็ไม่ได้มีราคาถูกเสียทีเดียว ดังนั้น ฉันจะไม่แนะนำวิธีนี้ นอกเสียจากว่าคุณจำเป็นต้องใช้โฮสติ้ง Windows สำหรับสร้างเว็บไซต์แบบกำหนดเอง
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่มีราคาถูกที่สุดในการโฮสต์อีเมลธุรกิจ คุณอาจจะข้ามวิธีที่สามนี้ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหากว่า คุณมีแผนบริการโฮสติ้งที่ใช้แผงควบคุม Plesk อยู่แล้ว (หรือคุณกำลังคิดว่าจะซื้อแผนบริการที่มีลักษณะดังกล่าว) ให้คุณตามไปดูขั้นตอนต่อไปได้เลย
ขั้นที่ 2 – เข้าระบบไปยังแดชบอร์ดเพื่อเข้าใช้งาน Plesk
หน้าจอแดชบอร์ดของโฮสต์แต่ละเจ้าจะมีหน้าตาที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่คุณจะสามารถหาทางเข้าไปใช้แผงควบคุมจากหน้าจอหลักได้ไม่ยาก หากคุณหาทางเข้าใช้งานแผงควบคุมไม่เจอ โปรดเข้าไปดูในฐานความรู้ที่ทางโฮสต์จัดเตรียมให้ โดยไปที่หัวข้อ “วิธีเข้าใช้งาน Plesk” เพื่อดูคำแนะนำอย่างละเอียด คุณยังสามารถเปิดใช้แผงควบคุม Plesk ได้โดยตรงด้วยการพิมพ์ที่อยู่ดังต่อไปนี้ไปในเบราว์เซอร์ของคุณ: https://<your domain name or the server IP address>:8443 จากนั้นคุณจะได้พบกับหน้าจอนี้ ซึ่งคุณสามารถใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ได้จากโฮสต์ (โดยปกติจะอยู่ในอีเมลต้อนรับ):
ขั้นที่ 3 – สร้างที่อยู่อีเมล
เมื่อคุณเข้าระบบมายังแผงควบคุม Plesk แล้ว คุณจะเห็นเมนูด้านซ้ายมือของหน้าจอ ให้คลิกที่ “เมล” เพื่อดำเนินการต่อ
ต่อไป ให้คุณเลือก “สร้างที่อยู่อีเมล” เพื่อสร้างอีเมล์ธุรกิจใหม่
ในตอนนี้คุณสามารถพิมพ์ที่อยู่อีเมลและรหัสผ่าน จากนั้นจึงจัดสรรพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้กับอีเมลของคุณ หากคุณไม่ได้ส่งหรือรับสื่อเป็นจำนวนมาก พื้นที่จัดเก็บ 1GB (หรือ 1024MB) ก็ถือว่าพอเพียงแล้ว อย่างไรก็ตาม ปริมาณพื้นที่จัดเก็บที่คุณสามารถใช้ได้นั้นจะขึ้นอยู่กับแผนบริการเว็บโฮสติ้งที่คุณใช้
ก่อนที่คุณจะคลิก “ตกลง” ให้ตรวจดูให้แน่ใจว่าแบบฟอร์มมีหน้าตาตามแบบที่แสดงอยู่นี้:
เมื่อสร้างอีเมลแล้ว คุณสามารถเข้าไปดูกล่องข้อความได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปซองจดหมาย (ที่หน้าจอ “เมล”) ง่ายแค่นี้เอง
ขั้นที่ 4 – การกำหนดค่าที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
Plesk มีเครื่องมือเพื่อการกำหนดค่าที่เป็นประโยชน์ต่อคุณสามแบบด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับอีเมลเพื่อธุรกิจของคุณ จากหน้าจอ “เมล” ให้คลิกลงบนที่อยู่ที่คุณต้องการกำหนดค่า
ตัวเลือกการกำหนดค่าจะปรากฏขึ้นที่ด้านบนของหน้าจอ:
ตัวเลือกแรกคือการส่งต่ออีเมลทั้งหมดไปยังที่อยู่อื่น หากคุณไม่สะดวกใช้งานเว็บเมลไคลเอ็นต์ที่ได้จากโฮสต์ของคุณก็ไม่เป็นปัญหา คุณสามารถสลับไปใช้การส่งต่ออีเมล และพิมพ์ที่อยู่อีเมล Gmail หรือ Yahoo เข้าไปเพื่อที่คุณจะสามารถอ่านอีเมลทั้งหมดได้จากที่นั่น
ทั้งคุณยังสามารถตั้งนามแฝงอีเมลที่จะส่งต่อเมลไปยังที่อยู่หลัก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการตั้งที่อยู่อื่นให้เป็นอีเมลสำหรับแผนกการขายและบริการลูกค้าเพื่อธุรกิจของคุณ (แต่คุณตั้งใจที่จะตอบอีเมลเหล่านี้ด้วยตัวเอง) คุณสามารถตั้งค่าได้จากตัวเลือกนี้
ร้านสุดท้าย คุณสามารถตั้งการตอบอีเมล์อัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบในกรณีที่คุณไม่อยู่สำนักงาน คุณเพียงแค่ต้องเปิดใช้งานระบบ “ตอบรับอัตโนมัติ” พิมพ์ข้อความของคุณลงไป และใช้งาน หากคุณต้องการให้ระบบตอบรับอัตโนมัติปิดการใช้งานเองในวันที่คุณกำหนด คุณสามารถทำได้โดยไปยังตัวเลือกที่อยู่ทางด้านล่างของหน้าจอ
ฟังก์ชันเหล่านี้ถือเป็นฟังก์ชันอีเมลที่มีความสำคัญมากที่สุดของ Plesk โดยโฮสต์ของคุณอาจจะมีเว็บเมลไคลเอ็นต์หลายตัวให้กับคุณและ/หรือเครื่องมือป้องกันสแปมด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณสามารถพบกับ คุณสมบัติเหล่านี้ได้ภายใต้แท็บ “การตั้งค่าเมล”
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณคลิกที่ “เปิดใช้งาน/ปิดใช้งานบริการ” ระบบจะให้คุณสามารถเปิดหรือปิดการป้องกันสแปมให้แก่โดเมนที่เลือกได้

![คลาวด์โฮสติ้ง Microsoft Azure Pricing [2025]: คุ้มค่าแค่ไหน](https://dt2sdf0db8zob.cloudfront.net/wp-content/uploads/2022/05/WH-Pricing-850x446.jpg)
![คลาวด์โฮสติ้ง Microsoft Azure Pricing [2025]: คุ้มค่าแค่ไหน](https://dt2sdf0db8zob.cloudfront.net/wp-content/uploads/2022/01/Mike-150x150.jpeg)
![เว็บโฮสติ้งและชื่อโดเมนคืออะไร? [2025]](https://dt2sdf0db8zob.cloudfront.net/wp-content/uploads/2022/05/WH-general1-850x446.jpg)











