รีวิว GoDaddy Hosting ปี 2024: เราทำไมถึงไม่แนะนำ

บริการโฮสติ้งจากบริษัทโดเมนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

หากคุณใช้งานอินเตอร์เน็ตมาเป็นเวลานานพอสมควร คุณคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ GoDaddy พวกเขาเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในการจดทะเบียนชื่อโดเมน แต่ตอนนี้ GoDaddy ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับจดทะเบียนโดเมนเท่านั้น แต่พวกเขายังให้บริการทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์อีกด้วย

แล้วตัวเลือกการโฮสต์ล่ะ แชร์โฮสติ้งธรรมดา, โฮสติ้งปลีก, แผนสำหรับ WordPress, โฮสติ้ง VPS และเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว

ด้วยประสบการณ์การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์กว่า 20 ปี คุณต้องคาดหวังให้ GoDaddy ให้บริการที่มีคุณภาพสูงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ฉันต้องการดูว่ามันจริงหรือไม่ ดังนั้นฉันจึงทำการทดสอบเว็บไซต์บน GoDaddy สองครั้งเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อดูว่ามันทำงานได้ดีเพียงใด ฉันทำสิ่งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเปรียบเทียบเว็บโฮสติ้งของ Website Planet ซึ่งเราได้ทดสอบบริการเว็บโฮสติ้งที่มีชื่อเสียงทั้งหมด

แต่ว่าบริการของ GoDaddy ไม่เป็นไปตามมาตราฐานที่เราตั้งไว้ เราจึงไม่ได้นำเสนอบริการนี้ไว้นในหน้าโครงการในภาษาไทย เราได้ทดสอบบริการเว็บโฮสต์ในประเทศไทยเพื่อดูว่าพวกเขาเปรียบเทียบกับบริการอื่นเป็นอย่างไรบ้าง

GoDaddy ควรจะทำให้ได้ดีกว่านี้มาก ๆ

GoDaddy นั้นเป็นบริการโดเมนที่ดี บริการเสริมอย่างเช่นโฮสติ้งนั้นไม่ใช่บริการหลักของบริษัท ดูเหมือนว่าบริการที่นำเสนอนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ในการเอาเงินออกจากกระเป๋าของลูกค้าเก่า

เพื่อทดสอบบริการโฮสติ้งของ GoDaddy ฉันซื้อแผนบริการเว็บโฮสติ้ง ดังนั้นฉันจึงต้องเน้นไปที่จุดนี้

ก่อนอื่นเลยมันเป็นบริการโฮสต์ผ่านระบบปฏิบัติการณ์ Apache มันเป็นเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์เว็บไซต์ที่เก่าและผู้ให้บริการโฮสติ้งส่วนใหญ่ก็พยายามหลีกเลี่ยง ที่จริงแลวไม่มีบริการโฮสติ้งที่ดีบริการไหนใช้เทคโนโลยีนี้เลย มันให้บริการได้ไม่เท่ากับ NGINX และ LiteSpeed และใช้งานกับ WordPress และ CMS (ระบบจัดการเนื้อหา) ได้ไม่ดีอีกด้วย

Hosting มีแผนบริการสี่แบบนำเสนอและทุกแบบมาพร้อมกับแบนด์วิธไม่จำกัด แผน Basic มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บ 100GB (ไม่ใช่ SSD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่ใหม่กว่า – แต่เป็น HDD รุ่นเก่า) และแผนอื่น ๆ อีกสามแผนก็มีพื้นเก็บข้อมูลให้ที่ไม่จำกัด

แผนขั้นสูงอื่น ๆ จะมีข้อมูลที่มากขึ้นและในขณะที่แผน Basic สามารถรองรับได้โดเมนเดียว แต่แผนอื่น ๆ สามารถจัดการโดเมนได้ไม่จำกัด ดูเหมือนว่าจะมีความแตกต่างของ “กำลังการประมวลผลและความเร็ว” ซึ่งหมายความว่าแผนราคาแพงกว่าจะมี RAM และ CPU ที่มากกว่า

นี่คือโฮสติ้งที่ขับเคลื่อนด้วย cPanel และคุณจะได้รับเครื่องมือตามปกติทั้งหมด Installatron เป็นเครื่องมือติดตั้งอัตโนมัติที่นำเสนอ (คล้ายกับ Softaculous มาก) ซึ่งหมายความว่า WordPress และ CMS อื่น ๆ จำสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายในไม่กี่คลิก

คุณได้อะไรอีก ไม่มีแล้ว มันคงจะง่ายกว่าถถ้าพูดถึงว่าพวกเขาขาดอะไรไปบ้าง

มันไม่มี SSL ฟรีในแผน Basic

บอกตามตรง: นั้นไม่ใช่ของแถม SSL หรือสิ่งที่ดีถ้ามีมาด้วย มันเป็นสิ่งที่คุณควรมี เทคโนโลยีนี้จะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ระหว่างเว็บไซต์ของคุณและผู้ใช้ของคุณ โดยปกป้องข้อมูลทั้งสองฝั่ง เครื่องมือค้นหาเช่น Google ต้องการเว็บไซต์ที่ปลอดภัย

GoDaddy เป็นบริษัทเว็บโฮสติ้งรายใหญ่รายหนึ่งที่ยังไม่มีใบรับรอง SSL ฟรี พวกเขาสามารถเลือกที่จะนำเสนอได้ เนื่องจากใบรับรองการเข้ารหัสของ Let’s Encrypt นั้นยอดเยี่ยมและโฮสต์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ กับโฮสต์ แต่พวกเขากลับไม่เลือกที่จะใส่มาด้วย

แต่กลับกันพวกเขาต้องการให้คุณซื้อใบรับรอง SSL ที่มีราคาแพงเกินไป มันมีราคาแพงมากราว ๆ $70 ต่อปีและฉันขอบอกเลยว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยอย่างยิ่ง

ทุกอย่างนั้นต้องซื้อเพิ่ม ไม่มีฟีเจอร์พิเศษใด ๆ รวมให้ในบริการ

ไม่มีการสำรองข้อมูลให้บริการในแผนการโฮสต์ของ GoDaddy ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยจำนวนมากไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนบริการ แม้แต่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ ซึ่งเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่ทุกที่นำเสนอก็ยังไม่รวมอยู่ในแผนการโฮสต์ของ GoDaddy

หากคุณต้องการใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของ GoDaddy คุณจะต้องซื้อแผนบริการอื่นแยกเอา แต่หากคุณทำเช่นนั้น คุณจะไม่สามารถใช้ WordPress ได้ และแน่นอนไม่มีตัวเลือกการสร้างเว็บจำลอง ไม่มีการรวม CDN และไม่มีอุปกรณ์แคชชิ่ง

หากคำศัพท์เหล่านี้ทำให้คุณสับสน ไม่ต้องกังวลเพราะ GoDaddy ไม่มีเทคโนโลยีเหล่านี้นำเสนออยู่แล้ว

มันใช้งานได้ไม่ง่ายเลย

หน้าแรกของ GoDaddy อาจทำให้คุณงงได้ มันมีดีไซน์ที่สวยงาม โลโก้ทันสมัยและคุณอาจคิดว่านี่เป็นบริการที่ทันสมัยและได้รับการคิดมาเป็นอย่างดี มันไม่ใช่แบบนั้นเลย

การเลือกแผนใช้งานนั้นทำได้ยาก

ยากมาก ๆ ฉันพยายามพูดคุยกับฝ่ายสนับสนุน ฉันพยายามแล้ว แต่สุดท้ายฉันกลับมาเลือก “เว็บโฮสติ้ง” เพราะฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงต้องเลือกโฮสติ้งประเภทอื่น

มี “โฮสติ้งสำหรับธุรกิจ” ซึ่งฉันคิดว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่มันไม่มีการสำรองข้อมูล มันมีโฮสติ้ง WordPress แต่บริการแชร์โฮสติ้งพื้นฐานก็รองรับ WordPress สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั้นก็คือแผนบริการโฮสติ้ง WordPress แบบพิเศษนั้นมีทรัพยากรน้อยกว่า

การเชื่อมต่อโดเมนนั้นทำได้ยาก

อย่างไรก็ตาม อย่างที่ฉันได้กล่าวไปในก่อนหน้านี้ว่าฉันเลือกแผนเว็บโฮสติ้งและการสมัครใช้งานนั้นก็ทำได้ง่าย ฉันได้รับ A Record (ไม่ใช่ nameservers) สำหรับเชื่อมต่อโดเมนในทันที ตอนนั้นฉันจับภาพหน้าจอเอาไว้ แต่คิดว่าคงไม่สำคัญเพราะฉันเพิ่งได้รับข้อมูลนั้นอีกครั้งในภายหลัง

เพิ่มเติม “nameservers” นั้นเป็นวิธีง่าย ๆ ในการเชื่อมต่อชื่อโดเมน

อย่างไรก็ตามการเชื่อมต่อโดเมนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง (ฉันไม่ได้จับภาพหน้าจอไว้) เนื่องจากฉันหา A Record ไม่เจอ พื้นที่ในบัญชีหลักแทบไม่มีข้อมูลโดยทั่วไปและแท็บส่วนใหญ่เต็มไปด้วยบริการที่มีให้ซื้อเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในแผนของคุณ

กลับมาที่การเชื่อมต่อโดเมน ฉันไม่พบข้อมูลและการสนับสนุนที่สามารถช่วยฉันได้ พวกเขาให้ nameservers ที่ไม่ถูกต้องและโดเมนก็เชื่อมต่อไม่ได้ ฉันลงเอยด้วยการใช้ภาพหน้าจอและสุดท้ายก็สามารถเชื่อมต่อโดเมนของตัวเองได้ แต่มันเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมาก หากคุณไม่มีประสบการณ์กับเว็บโฮสติ้งมาก่อน แน่นอนเลยว่าคุณจะไม่ต้องการที่จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้

GoDaddy อาจจะเอาเงินของคุณมา แล้วพิจารณาว่าคุณเป็นพวกหลอกลวง

สามสัปดาห์ต่อมา GoDaddy ก็คิดว่าฉันเป็นบุคคลน่าสงสัยและจำเป็นต้องใช้ข้อมูลยืนยันข้อมูลของฉัน ระบบได้ตั้งค่าสถานะให้ฉันเป็นผู้ใช้ที่หลอกลวง

โฮสต์อื่น ๆ ทำเช่นนี้เช่นกัน แต่มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากลงทะเบียน บัญชีของคุณจะไม่ได้รับการเปิดใช้งานจนกว่าคุณจะยืนยันด้วยบัตรประชาชน GoDaddy นึกขึ้นได้ว่าควรจะทำสิ่งนี้ในสามสัปดาห์ให้หลังจากที่ฉันได้ลงทะเบียนไปแล้ว ฉันไม่ได้เข้าไปตรวจสอบแผงควบคุมของฉันแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่เห็นการแจ้งเตือน

จากนั้นพวกเขาก็ยกเลิกบัญชีของฉัน

ฉันสูญเสียทุกอย่างที่ฉันได้ทำขึ้นมาและต้องลงชื่อสมัครใช้อีกครั้งและเริ่มต้นทุกอย่างใหม่

ในความคิดเห็นของฉัน ฉันคิดว่ามันเป็นบริการที่แย่มาก ฉันเสียเวลา ฉันเสียงานของฉันและถ้าฉันไม่ได้คิดว่าจะถ่ายภาพหน้าจอเอาไว้ ฉันจะไม่สามารถเชื่อมต่อชื่อโดเมนของฉันไปยังบัญชีโฮสติ้งของฉันได้

แต่อย่างน้อยการติดตั้ง WordPress ก็ทำได้ง่าย:

ประสิทธิภาพของ GoDaddy ก็แย่เช่นกัน

ทุกโฮสต์ที่ฉันทดสอบ ฉันตั้งค่าเว็บไซต์ทดสอบด้วยส่วนเสริมของ WordPress ตามปกติ ฉันต้องการให้ใกล้เคียงกับค่าประมาณของเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ทั่วไปมากที่สุด ฉันยังถามฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคเสมอว่าพวกเขาสามารถแนะนำ (หรือดำเนินการ) การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ใด ๆ ที่อาจช่วยเร่งความเร็วได้หรือไม่ เพื่อให้ผู้ให้บริการมีโอกาสได้สร้างความประทับใจแรกพบ

ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนของ GoDaddy แนะนำให้ติดตั้งปลั๊กอิน WP Smush ซึ่งบีบอัดรูปภาพใน WordPress โดยไม่ต้องเสียคุณภาพไปมากนัก มันเป็นคำแนะนำที่ดี แต่ก็เป็นเพียงคำแนะนำเดียว

ฉันจะพูดถึงรายละเอียดทางเทคนิคที่เหลืออยู่ แต่ถ้าคุณมีเวลาไม่มากพอ คุณสามารถข้ามไปที่ส่วนการสนับสนุนได้ทันที แต่ขอบอกก่อนว่าประสบการณ์ของฉันกับการสนับสนุนของ GoDaddy นั้นแย่ยิ่งกว่า

มันมีศูนย์ข้อมูลสามแห่งให้เลือก แต่ GoDaddy มีความลับเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของพวกเขามาก จนคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ไหนทำงานได้ดี คุณมีตัวเลือกให้เลือกระหว่าง “อเมริกาเหนือ” “ยุโรป” และ“ เอเชีย” โฮสต์อื่น ๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาไปกับการอธิบายตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของศูนย์ข้อมูล พร้อมรูปภาพและรายละเอียด

สำหรับการทดสอบ GTmetrix เป็นเครื่องมือที่ฉันเลือกใช้สำหรับการจับเวลาในการโหลดหน้าเว็บ และใช้ Sucuri เพื่อทดสอบเวลาในการโหลดเฉลี่ยทั่วโลกและ UptimeRobot จะตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไซต์ของฉันยังคงใช้งานได้

GTmetrix

เวลาในการโหลดหน้าเว็บโดยสมบูรณ์เร็วที่สุดคือ 2.2 วินาที มันเกินค่าแนะนำสูงสุด 2 วินาที โปรดทราบว่าค่าเฉลี่ยคือ 2.94 วินาทีและช้าที่สุดคือ 5 วินาที

ความเร็วที่เร็วที่สุดของ GoDaddy คือความเร็วที่ช้าที่สุดของโฮสต์ส่วนใหญ่และความเร็วที่ช้าที่สุดนั้นแย่มากจนทำให้ผู้เข้าชมจำนวนมากละทิ้งเว็บไซต์ของคุณ ค่าเฉลี่ยนั้นค่อนข้างแย่มากเช่นกัน เนื่องจากสองในสามของผู้เยี่ยมชมของคุณมักจะกลับมาที่ Google ทันที

Sucuri

เมื่อเวลาโหลดทั่วโลกเฉลี่ยที่เร็วที่สุด (3.833 วินาที) เกือบจะช้าเท่ากับเวลาโหลดที่ช้าที่สุด (4.504 วินาที) มันมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม ค่าเฉลี่ยเฉลี่ย 4.160 วินาทีนั้นมากกว่าเวลาในการโหลดหน้าเว็บที่แนะนำถึงสองเท่า

ผลลัพธ์เหล่านี้นั้นดูไม่ดีเอาเสียเลยและมันมีบริการอื่น ๆ ที่มีผลลัพธ์ที่ดีกว่า:

UptimeRobot

ประสิทธิภาพในการให้บริการมากกว่า 99.974% ในตลอดเวลาสี่เดือน มันไม่ได้แย่เลย แต่ความพร้อมใช้งานลดลงอย่างต่อเนื่องโดยประมาณครั้งละ 3-4 นาทีทุกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเนื่องจากโฮสต์อื่น ๆ ที่เราทดสอบอาจจะไม่สามารถใช้งานได้ 3-4 ช่วงเวลาระหว่างการทดสอบทั้งหมด

GoDaddy ใช้งานไม่ได้ประมาณ 20 ครั้ง

นอกจากนี้ยังไม่มีการรับประกันความพร้อมในการให้บริการใด ๆ

เพื่อสรุป: หากคุณเลือกเว็บโฮสติ้งของ Godaddy ผู้เยี่ยมชมของคุณมักจะไม่สามารถโหลดเว็บไซต์ของคุณได้หลายต่อหลายครั้ง

จนถึงตอนนี้ทุกอย่างแย่ลง แต่การสนับสนุนเป็นสิ่งที่แย่ลงไปอีก GoDaddy ไม่ใช่บริการเดียวที่ใช้บริการสนับสนุนจากบุคคลที่สามในตำแหน่งต่าง ๆ (แม้แต่บริษัทเว็บโฮสติ้งอย่าง InterSever และ A2 Hostingก็ใช้เหมือนกัน) แต่ทีมงานของ Godaddy มันหายนะชัด ๆ

พวกเขาบอกว่านำเสนอบริการแชทสด (“ที่จัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ”) ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ในความเป็นจริงแล้วมันแทบจะไม่สามารถใช้ได้เลยและบางครั้งก็ไม่มีให้บริการเลย ทุกครั้งที่มีตัวแทนอยู่พวกเขาก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้

มันมีการสนับสนุนผ่านโทรศัพท์ แต่ฉันก็ให้คะแนนพวกเขามากกว่านี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

ทำไมพวกเขาถึงแย่ขนาดนั้น ก่อนอื่นเลยตัวแทนแทบจะไม่รู้ภาษาอังกฤษและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจวิธีการทำงานของบริษัท พวกเขาไม่รู้ว่ามีบริการอะไรบ้างหรือมีความแตกต่างกันอย่างไร พวกเขาไม่เข้าใจว่าเว็บโฮสติ้งทำงานอย่างไร พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าประสิทธิภาพที่ห่วยแตกนั้นเป็นสิ่งที่ Godaddy ทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

ตัวแทนที่ฉันพูดด้วยทำฉันเสียเวลามากและมักจะตัดการเชื่อมต่อหรือหยุดตอบฉัน เมื่อพวกเขายกเลิกการเชื่อมต่อ คุณจะกลับไปต่อคิวอีกครั้งและไม่มีการบันทึกการพูดคุยในก่อนหน้านี้ คุณต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง แต่คุณจะทำไปเพื่อให้ถูกตัดการเชื่อมต่ออีกครั้งเท่านั้น

ไม่มีวิธีติดตามปัญหาที่กำลังดำเนินอยู่หรือจัดการกับปัญหาสำคัญ ๆ

ตัวแทนก่อนการขายโกหกฉันว่าบริการนี้เป็บริการที่ดีเยี่ยม โดยพวกเขาโต้ตอบด้วยการคัดลอกย่อหน้าต่าง ๆ จากกระดาษคำตอบที่เตรียมเอาไว้มาตอบคุณแค่นั้นเอง เธอไม่ได้คัดลอกและวางอย่างถูกต้องซ้ำไป

ฉันพยายามเข้าใจความแตกต่างระหว่างแผนต่าง ๆ แต่เธอไม่รู้ ในตอนแรกเธอกล่าวว่าบางแผนมีใบรับรอง SSL แต่จากนั้นก็บอกว่ามีเพียงแผนระดับสูงสุดเท่านั้นที่มี เธอไม่รู้ว่าแผนใดรองรับ WordPress บ้างหรือทำไมฉันควรเลือกแผนไหน ฉันต้องเสียเวลาเกือบชั่วโมงกับการสนับสนุนที่ไร้ประโยชน์นี้

เมื่อฉันต้องการความช่วยเหลือในการติดตั้ง WordPress ฉันขอการสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับสิ่งนั้น

ตัวแทนตอบกลับมาว่า “ฉันจะช่วยคุณอย่างไรได้บ้าง”

ฉันบอกเขาไปอีกครั้ง “ช่วยฉันติดตั้ง WordPress หน่อยได้ไหม”

ตัวแทนถามถึงปัญหา

ฉันตอบไปอีกครั้งว่าฉันต้องการติดตั้ง WordPress

มันเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหลายนาที จนพวกเขาบอกให้ฉันไปใช้ Installatron

จากนั้นฉันก็ขอความช่วยเหลือในการเชื่อมต่อโดเมนของฉันและตัวแทนก็ยืนยันกับฉันหลายครั้งว่ามีการเชื่อมต่อแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้น โดเมนไม่ได้เชื่อมต่ออันเองเสียหน่อยและโดเมนของฉันไม่ได้ลงทะเบียนกับ GoDaddy

ตัวแทนสนับสนุนที่ดีจะทำการทดสอบการเผยแพร่ DNS เพื่อดูว่าโดเมนถูกชี้ไปที่ใด อย่างไรก็ตามตัวแทนฝ่ายสนับสนุนของ GoDaddy แค่โกหกฉัน ตลอดการสนทนาทั้งหมดนี้ ฉันใช้ไปกับการการจ้องหน้าจอโดยไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เป็นเวลานานมาก

ฉันให้เขาแจ้งรายละเอียด Nameserver เพื่อที่ฉันจะได้เชื่อมต่อโดเมนของฉันและเราก็แยกทางกัน สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่ Nameserver ที่ถูกต้องและมันใช้งานไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันต้องจัดการทุกอย่างเองใหม่หมด

เมื่อฉันต้องการขอความช่วยเหลือในการติดตั้งธีมและกำหนดค่า WP ตัวเลือกไลฟ์แชทไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมง ฉันจึงยอมแพ้

เมื่อฉันส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ในภายหลังและนี่มันตามมาด้วยความตลกอย่างสุดขีด ฉันได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่หลาย คนละสองข้อความก่อนที่พวกเขาจะถูกตัดการเชื่อมต่อไปอย่างลึกลับ ตัวแทนที่ฉันคุยด้วยในตอนท้ายแนะนำให้ฉันติดตั้ง WP Smush ที่จริงแล้วมันไม่ใช่คำตอบที่แย่เลยนะ

แต่เวลาในการโหลดของฉันยังอยู่ที่ 2.2 วินาที

ฉันถามอย่างถากถางว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ GoDaddy ทำได้หรือไม่ แต่ตัวแทนบอกฉันอย่างมีความสุขว่า “ใช่แล้ว นี่คือสูงสุดที่เราสามารถทำได้!”

เมื่อตัวแทนบอกคุณว่าความเร็วที่แย่มากเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่โฮสต์ทำได้ คุณต้องเชื่อพวกเขา

ราคาของ GoDaddy นั้นแพงตามมาตรฐาน แต่เมื่อคุณพิจารณาว่ามันไม่มีคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น ใบรับรอง SSL ฟรี บริการนี้ก็ยิ่งเริ่มดูแย่ลงไปอีก

ตัวเลือกการชำระเงินที่มีให้คือ 3, 12, 24 หรือ 36 เดือน คุณสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เท่านั้น มันไม่มีการรับประกันคืนเงินและแม้แต่แผนสามปีก็ค่อนข้างแพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Hostinger หรือ InterServer และส่วนเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ควร

หน้าชำระเงินของ GoDaddy เต็มไปด้วยการเพิ่มยอดขายอัตโนมัติที่คุณจะต้องนำมันออกด้วยตนเอง – หากไม่ทำเช่นนั้นคุณอาจจะได้จ่ายมากกว่าค่าโฮสต์อย่างเดียว บริการเช่น “Office 365 Mail ฟรี” ให้บริการฟรีในปีแรกเท่านั้นและจะต่ออายุโดยอัตโนมัติซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายหลายร้อยดอลลาร์

GoDaddy ไม่เตือนคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน – บริษัทอาจทำให้คุณสับสน ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการให้คุณบังเอิญลองใช้ส่วนเสริมที่คุณไม่เคยต้องการ

โดเมนฟรีรวมอยู่ในแผน 1 ปี แต่การต่ออายุมีราคาที่สูง GoDaddy บอกว่าราคาของโดเมนนั้นมากกว่า $30 ต่อปี ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ด้วย Namecheap คุณจะได้รับโดเมนเดียวกันในราคาต่ำกว่า $10 ต่อปีพร้อมด้วยการป้องกันความเป็นส่วนตัว คุณยังสามารถซื้อโดเมนได้ในราคาถูกกว่าใน GoDaddy ด้วยการซื้อโดเมนแยกต่างหาก