DoodleKit รีวิว 2024 – มันทำได้ดีตามมาตราฐานของเราหรือเปล่า

DoodleKit มีฟีเจอร์เด่นๆ มากมายแต่ก็ยังสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีก

ในสองสามปีที่ผ่านมามีผู้พัฒนาเว็บไซต์หลายรายเกิดขึ้นมา เช่นเดียวกับคนที่ต้องการมีตัวตนในโลกออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดที่มีผู้แข่งขันมากมายได้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ได้เพิ่มนวัตกรรมฟีเจอร์ใหม่ๆ ลงในแพ็คเกจทำให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เช่นฟีเจอร์ ‘drag and drop’ การรวมโซเซียลมีเดียเข้าไว้ด้วยกัน การตกแต่งภาพและง่ายต่อการเข้าถึงได้กลายมาเป็นฟีเจอร์ทั่วไปที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ในปัจจุบันให้บริการแก่ลูกค้า

DoodleKit ไม่ใช่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ที่ทันสมัยที่สุดแต่มีฐานผู้ใช้งานที่ภักดีที่มองหาวิธีที่ไม่ยุ่งยากเพื่อนำธุรกิจของพวกเขาไปยังโลกออนไลน์ ฟีเจอร์บางตัวเช่น ธีมและแผงควบคุมที่ล้าสมัยแต่ง่ายต่อการปรับแต่งทำให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ต้องต่อความต้องการของคุณ ฟีเจอร์ทันสมัยอย่างเช่น drag and drop นั้นไม่มีบน DoodleKit และนั่นหมายความว่าการเพิ่มฟีเจอร์เว็บไซต์ขั้นสูงจะใช้เวลานานกว่าที่อื่นกับผู้สร้างไซต์รายอื่น ๆ ผู้ใช้ขั้นสูงชอบการใช้ CSS Editor ที่ให้คุณสามารถเขียนโค้ดทับโค้ดปัจจุบันด้วยกฎ CSS ใหม่ได้ คุณสามารถปรับแต่งอะไรก็ได้ที่คุณต้องการตั้งแต่สไตล์พื้นหลัง ส่วนหัวและส่วนท้ายการตั้งค่าเนื้อหาและอื่น ๆ

เข้าถึงเทมเพลตแบบง่าย ๆ สำหรับเว็บไซต์พื้นฐาน

เทคโนโลยีสำหรับรับชมเว็บไซต์: เมื่อเปรียบเทียบกับผู้พัฒนาเว็บไซต์อื่นๆ แล้วเทมเพลตของ DoodleKit ยังขาดความน่าสนใจ อย่าเข้าใจฉันผิดไปเทมเพลตเหล่านั้นใช้งานได้ดีหากคุณแค่มองหาเว็บไซต์แบบเรียบง่ายแต่คุณคงต้องมองหาที่อื่นหากคุณต้องการเทมเพลตที่มีความเคลื่อนไหวและความน่าสนใจ มีสิ่งหนึ่งที่ดีใน DoodleKit คือธีมที่สามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้และให้คุณใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเว็บไซต์ของคุณยังดูดีบนมือถืออีกด้วย

การปรับแต่งธีม: แม้ว่าธีมจะดูเทอะทะและมันยังสามารถปรับแต่งได้ คุณสามารถเปลี่ยนสี รูปภาพที่ส่วนหัว สไตล์พื้นหลัง ขนาดตัวหนังสือและอย่างอื่นที่คุณต้องการ

การเข้าถึงเทมเพลต HTML และ CSS: ผู้ใช้ขั้นสูงสามารถใช้ฟังก์ชั่นDoodleKit CSS เพื่อเขียนโค้ดทับโค้ดที่มีอยู่แล้วแต่เพราะว่า DoodleKit เป็นเว็บไซต์ของผู้ที่เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ คุณไม่ต้องเขียนโค้ดอะไรเพื่อให้ได้เทมเพลตสวยๆ แต่ว่าความรู้เรื่อง HTML ก็จะเป็นประโยชน์ได้เช่นกันหากคุณต้องการสร้างอะไรที่มากกว่าเว็บทั่วๆไป

การเพิ่มประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้น

SEO: แผนแบบมีค่าใช้จ่ายของ DoodleKit มีเครื่องมือ SEO ที่ยอดเยี่ยมรวมทั้ง meta tags page titles และแผนผังเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการแสดงผลไซต์ของคุณให้มากที่สุด

อีคอมเมิร์ซ: ฟีเจอร์ อีคอมเมิร์ซ นั้นเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี คุณสามารถใช้งานร่วมกับ Google Checkout หรือ PayPal เพื่อให้คุณสามารถขายของจากเว็บไซต์ของคุณได้โดยตรง

วิเคราะห์: ฟีเจอร์รายงานจะประโยชน์มากหากคุณต้องการติดตามผลตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม IP address ของผู้เข้าชม คำค้นหาและประเภทบราวเซอร์ที่ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ

เว็บไซต์สร้างเว็บสำหรับมือใหม่

ตัวแก้ไขหน้าเพจของ DoodleKit นั้นค่อนข้างซับซ้อนเมื่อเทียบกับผู้พัฒนาอื่นๆ แต่การสร้างเว็บไซต์พื้นฐานยังคงเป็นเรื่องง่าย ผู้ใช้ขั้นสูงนิยมเพราะสามารถใช้ HTML และ WYSIWYG เพื่อการแก้ไขเว็บไซต์ซึ่งช่วยให้การแก้ไขทำได้ง่ายขึ้น หากคุณไม่มีความรู้ด้านเทคนิคใดๆ เลยการใช้บริการเว็บไซต์นี้สร้างเว็บไซต์ที่มากกว่าเว็บไซต์ทั่วๆ ไปอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดได้

มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจ

DoodleKit สร้างเว็บไซต์ราคาไม่แพงพร้อมด้วยแพ็คเกจที่มีทั้งแผนฟรี แผนแบบทั่วไป แผนสำหรับธุรกิจและแผนขั้นสูง แผนที่มีค่าใช้จ่ายจะมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินไม่เกิน 30 วัน

แผนฟรีนั้นค่อนข้างดีเพราะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บโฮสติ้งได้มากถึง 25,000 รายต่อเดือน เทมแพลตใช้งานบนมือถือ อัลบั้มรูปภาพ บล็อกแบบรวม แบนด์วิธ 100 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 100 MB

แผนทั่วไปจะให้โดเมน โฮสติ้ง ความจุสำหรับการอัปโหลดรูปภาพ 1K การวิเคราะห์เครื่องมือ SEO แบนด์วิดท์ไม่ จำกัด และพื้นที่เก็บข้อมูล 3GB

แผนสำหรับธุรกิจจะให้ฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ความจุสำหรับอัปโหลดรูปภาพ 2K ฟอรั่ม ตะกร้าช็อปปิ้ง โดเมนและเพิ่มพื้นที่สำหรับการอัปโหลดไฟล์

หากคุณต้องการมากกว่านี้ แผนขั้นสูงจะรวบรวมฟีเจอร์ทุกอย่างจากแผนอื่นๆ รวมไปถึงพื้นที่เก็บข้อมูลแบบไม่จำกัด แบรนด์วิดท์ไม่จำกัดและไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้