พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา
  1. Website Planet
  2. >
  3. บล็อก
  4. >
  5. วิธีเข้าร่วม Fiverr ในฐานะฟรีแลนซ์และโพสต์งานชิ้นแรกของคุณ

วิธีเข้าร่วม Fiverr ในฐานะฟรีแลนซ์และโพสต์งานชิ้นแรกของคุณ

อดัม วาร์เนอร อดัม วาร์เนอรผู้เชี่ยวชาญในด้านงานฟรีแลนซ์
ที่ Fiverr คุณจะพบกับบริการต่าง ๆ เท่าที่คุณจะจินตนาการได้ ตั้งแต่การออกแบบกราฟิกไปจนถึงการพัฒนาเว็บไซต์ หรือคำแนะนำด้านความสัมพันธ์ส่วนบุคคลไปจนถึงวิดีโอวันเกิดแบบตลก ๆ สิ่งที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มสำหรับฟรีแลนซ์อื่น ๆ เล็กน้อยก็คือ ผู้ให้บริการบน Fiverr จะโพสต์บริการของพวกเขา ซึ่งลูกค้าสามารถค้นหาและซื้อได้ บริการหรืองานเหล่านี้เรียกว่า “gigs”

แพลตฟอร์มนี้ให้คุณเข้าร่วมได้ฟรี และก็สามารถโพสต์งาน ได้ฟรี ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ที่ต้องการขยับขยายไปยังแพลตฟอร์มใหม่ ๆ หรือเป็นคนมีความสามารถที่ต้องการหารายได้เสริม หรือหากคุณแค่คิดจะลาออกจากงาน Fiverr ก็คุ้มค่าแก่การลองดู

หากคุณไม่แน่ใจว่า Fiverr เหมาะกับคุณหรือไม่ คุณสามารถลองอ่านรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ ของเรา จากนั้นอ่านดูว่าการทำงานบนแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างไรโดยการอ่านประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้งานมาแล้ว

สิ่งสำคัญ! ก่อนที่คุณจะสร้างงานแรกของคุณ (ตามที่เราอธิบายไว้ที่นี่) คุณควรทราบวิธีที่ผู้ซื้อเห็นงานต่าง ๆ เพื่อให้คุณจะเข้าใจวิธีการทำให้งานของคุณโดดเด่น! ข้ามไปด้านล่างเพื่อดูว่าเราหมายถึงอะไร
หากคุณตัดสินใจได้แล้วก็ดีเลย ลองมาดูรายละเอียดขั้นตอนการสร้างงานบน Fiverr กัน แน่นอนมันง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ผมจะสอนให้คุณสร้างงานที่ดี ซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่นานคุณก็จะได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายแรก ๆ แล้ว

ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชี

image8 8 ก่อนที่คุณจะสามารถโพสต์งานแรกได้ คุณจะต้องสร้างบัญชีก่อน คุณสามารถลงทะเบียนโดยใช้บัญชี Facebook  บัญชี Google หรืออีเมล เมื่อคุณเลือกว่าคุณต้องการสร้างบัญชีอย่างไรแล้ว คุณจะต้องเลือกชื่อผู้ใช้และสร้างรหัสผ่านหรือกรอกอีเมล เมื่อสร้างบัญชีของคุณแล้ว ให้ไปที่กล่องจดหมายอีเมลของคุณ เปิดใช้งานบัญชี และกรอกข้อมูลโปรไฟล์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: สร้างโปรไฟล์ของคุณ

image1 57 สิ่งแรกที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะตรวจสอบ – ก่อนที่จะจ่ายเงินซื้องานของคุณ – ก็คือโปรไฟล์ของคุณ โดย Fiverr จะขอให้คุณใส่รูปภาพและข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าของคุณได้รู้จักคุณมากขึ้น

เคล็ดลับจากมืออาชีพ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสร้างโปรไฟล์ที่ตอบโจทย์ในแต่ละด้าน:
  • รูปภาพโปรไฟล์: ใส่รูปใบหน้าจริงของคุณที่ดูเป็นมืออาชีพ ซึ่งจะช่วยให้แน่ใจว่าลูกค้าจะเชื่อว่าคุณเป็นคนจริง ๆ และทำให้โปรไฟล์ของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
  • คำอธิบาย: ใช้ส่วนนี้เพื่อแนะนำตัวคุณกับลูกค้า โดยคุณสามารถรวมความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่คุณคิดว่าสำคัญ – โดยเขียนให้ตรงประเด็นที่สุด!
  • ภาษา: บอกให้คนอื่น ๆ ทราบว่าคุณพูดภาษาอะไรได้บ้างและมีความถนัดระดับไหน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากหากงานของคุณเกี่ยวกับทักษะด้านการเขียนหรือการแปล
  • การทดสอบที่เคยทำ: โปรไฟล์ส่วนนี้จะแสดงแบบทดสอบที่คุณเคยทำบน Fiverr โดยแบบทดสอบต่าง ๆ จะช่วยยืนยันทักษะของคุณและสามารถช่วยเพิ่มความเชื่อถือจากลูกค้าได้ แต่ควรระวัง เพราะคุณสามารถทำแบบทดสอบได้สองครั้งในสามเดือน อย่างไรก็ตาม Fiverr มีตัวเลือกให้คุณซ่อนคะแนนของคุณหากคุณทำได้ไม่ดี
  • ทักษะ: ในส่วนนี้ คุณควรพูดถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณจะสร้าง โดยรวมถึงความสามารถที่คุณสั่งสมจากงานที่เคยทำในอดีต งานอดิเรก หรือประสบการณ์อื่น ๆ ในชีวิต Fiverr ให้คุณใส่ได้สิบข้อเท่านั้น ดังนั้นคุณควรเลือกให้ดี
  • การศึกษา: ใส่มหาวิทยาลัยที่คุณเคยศึกษาและวุฒิบัตรหรือปริญญาของคุณ
  • ประกาศนียบัตร: ใส่ประกาศนียบัตรต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มงานใหม่

image2 38 เมื่อคุณสร้างโปรไฟล์ของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มสร้างงานแรกของคุณได้เลย! โดยไปที่เมนู “Selling” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และที่เมนูแบบ drop-down เลือก “Gigs” และจากตรงนี้ คุณเพียงต้องคลิกปุ่ม “Create New Gig” เพื่อเริ่มกระบวนการ

ขั้นตอนที่ 4: เขียนภาพรวมของงาน(Gig Overview)

image5 24 ส่วนแรกที่คุณจะต้องกรอกคือภาพรวมของงานหรือ Gig Overview โดยคุณจะต้องกรอกข้อมูลในช่องว่างสามช่อง:
  1. ชื่องานของคุณ
  2. หมวดหมู่
  3. Tag ที่เกี่ยวข้องสำหรับการค้นหา

เคล็ดลับจากมืออาชีพ

อย่ามองข้ามกระบวนการนี้ โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้เพื่อเขียนภาพรวมที่น่าสนใจซึ่งจะดึงดูดลูกค้าได้:
  • ชื่อ Gig: คุณสามารถใส่ได้ 80 อักขระ ดังนั้นควรเขียนให้ดีและทำให้มันชัดเจนและกระชับ คุณต้องการให้ลูกค้าของคุณทราบว่าคุณให้บริการอะไร และควรเลือกชื่อที่ทำให้คุณโดดเด่นจากคนอื่น ๆ โดยเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์
  • หมวดหมู่: Fiverr จะแนะนำหมวดหมูต่าง ๆ ให้คุณโดยอัตโนมัติโดยดูจากชื่อ และโดยทั่วไปแล้วก็จะมีหนึ่งหมวดหมู่ที่ตรงกับบริการของคุณ อย่างไรก็ตาม หากหมวดหมู่ที่ Fiverr แนะนำไม่เหมาะกับบริการของคุณ คุณสามารถเลือกจากตัวเลือกมากมายในเมนูแบบ dropdown หาหมวดหมู่และหมวดหมู่ย่อยที่เหมาะกับงานของคุณ
  • Tags สำหรับค้นหา: ใส่คำที่คุณคิดว่าลูกค้าจะใช้เมื่อค้นหาบริการของคุณ คุณสามารถใส่ได้ 5 คำ ดังนั้นโปรดเลือกอย่างระมัดระวัง คำเหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้บริการอะไร การค้นหาข้อมูลเพื่อดูว่าคำไหนเป็นคำที่ใช้บ่อยที่สุดในการค้นหาบริการในหมวดหมู่ของคุณอาจจะช่วยคุณได้มาก
เมื่อตั้งชื่อเรียบร้อยแล้ว คลิกที่ปุ่มสีเขียวปุ่มใหญ่ที่เขียนว่า “Save and Continue” ที่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 5: ตั้งราคางานของคุณ

image7 10

การตั้งราคางานได้พัฒนาขึ้นเล็กน้อยนับตั้งแต่การก่อตั้ง Fiverr โดยในปัจจุบันแพลตฟอร์มนี้ให้ผู้ขายเลือกให้บริการแพ็คเกจได้สามแบบ:
  1. Basic
  2. Standard
  3. Premium

เคล็ดลับจากมืออาชีพ

นี่คือสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบเกี่ยวกับการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตและค่าบริการ:
  • จำนวนแพ็คเกจ: คุณไม่จำเป็นต้องเลือกเพ็คเกจทั้งหมดทั้งสามแบบ อย่างไรก็ตามลูกค้าส่วนใหญ่ชอบตัวเลือกแบบพรีเมียม ดังนั้นคุณควรเลือกให้บริการนี้หากเป็นไปได้ นอกจากนี้แล้ว ตามที่ Fiverr บอก ผู้ให้บริการที่มีแพ็คเกจงานให้เลือกทั้งสามแบบได้รับค่าบริการมากกว่าสูงสุดถึง 64% ต่อออเดอร์
  • ตั้งชื่อแพ็คเกจของคุณ: เลือกชื่อที่เตะตาสำหรับแพ็คเกจแต่ละแบบของคุณและดูให้แน่ใจว่าแต่ละแพ็คเกจมีชื่อที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
  • คำอธิบายแพ็คเกจ: เขียนคำอธิบายสั้น ๆ ว่าแต่ละแพ็คเกจมีอะไรบ้างและทำไมคุณถึงรวมมันเข้าไปในแพ็คเกจนั้น คุณสามารถเขียนได้ 100 อักขระ ดังนั้นอาจจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนทุกอย่างที่คุณต้องการจะบอก โปรดแน่ใจว่าข้อเสนอของคุณชัดเจนสำหรับลูกค้า
  • ระยะเวลาที่ใช้: คุณใช้เวลานานแค่ไหนการทำงานให้เสร็จสิ้น โดยแต่ละแพ็คเกจอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขอบเขตของงาน
  • การแก้ไข: จำนวนครั้งที่คุณจะแก้ไขงานของคุณหากลูกค้าร้องขอ โดยปกติแพ็คเกจแบบ Premium จะมีการเพิ่มเติมจำนวนครั้งในการแก้ไข
  • ราคา: แต่ละแพ็คเกจสามารถมีราคาระหว่าง $5 ถึง $995 ดอลล่าร์สหรัฐฯ​ แพ็คเกจแบบ Basic ของคุณควรจะมีราคาถูกที่สุดและแบบ Premium ควรมีราคาแพงที่สุดเสมอ โปรดจำไว้ว่าคุณสามารถเปลี่ยนราคาได้ในภายหลัง ดังนั้นในตอนเริ่มต้นควรตั้งราคาที่ไม่แพงเกินไปเพื่อสร้างรีวิว
  • My Gig Extras: ที่นี่คุณสามารถคิดค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับบริการเสริมต่าง ๆ ที่คุณต้องการเพิ่มเข้าไปยังแพ็คเกจของคุณ มีรายการบริการเสริมที่พบบ่อยที่าคุณสามารถเลือกได้จากเมนู เช่น บริการส่งงานด่วนพิเศษ​ และการแก้ไขเพิ่มเติม หากมีบริการเสริมที่คุณต้องการให้บริการแต่ไม่มีอยู่ในตัวเลือก Fiverr ทำให้คุณสามารถเพิ่มบริการเสริมได้ด้วยตัวเอง เพียงคลิกที่ “+ Add Gig Extra” ที่ด้านล่างของ “My Gig Extras” และกรอกชื่อ คำอธิบาย และราคา
  • การจัดส่ง: กรอกค่าบริการจัดส่งหากคุณต้องส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ลูกค้าและต้องการคิดค่าบริการ คุณจะได้รับตัวเลือกให้เลือกได้หลายราคาโดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้ง

ขั้นตอนที่ 6: เขียนคำอธิบายและคำถามที่พบบ่อย (FAQ) ของงานของคุณ

image9 8

นอกจากชื่อแล้ว คำอธิบายเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสร้างงานที่จะทำให้คุณหาลูกค้าได้

ในส่วนนี้คุณควรบอกรายละเอียดเกี่ยวกับบริการของคุณโดยละเอียด ดังนั้นจึงมีการกำหนดจำนวนอักขระขั้นต่ำ 120 อักขระ และสูงสุด 1,200 อักขระสำหรับคำอธิบาย อย่าลืมกรอกรายละเอียดที่สำคัญ เนื่องจากลูกค้าควรจะได้ทราบคำอธิบายที่ถูกต้องและละเอียดเพียงพอสำหรับการตัดสินใจว่าบริการของคุณตรงกับความต้องการของพวกเขาหรือไม่

คำอธิบายที่คลุมเครืออาจจะทำให้ลูกค้าไม่พอใจและให้ฟีดแบ็คที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะทำลายโอกาสในอนาคตของคุณบนแพลตฟอร์มนี้

เมื่อคุณเขียนคำอธิบายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเขียนคำถามที่พบบ่อย (FAQ) ในส่วนนี้ คุณควรเขียนคำถามและคำตอบที่คุณคาดหวังว่าคุณจะได้รับเกี่ยวกับงานของคุณ โดยอาจจะต้องมีการแก้ไขในภายหลัง เนื่องจากคุณอาจจะไม่ทราบว่าคุณจะได้รับคำถามอะไรบ้างก่อนที่คุณจะให้บริการงานของคุณไปได้สักพัก คลิกที่ปุ่ม “+ Add FAQ” เพื่อเขียน FAQ กี่ข้อก็ได้ตามที่คุณต้องการ

ขั้นตอนที่ 7: สร้างข้อกำหนดงานของคุณ

image3 36 ที่นี่คุณสามารถตั้งข้อกำหนดที่ลูกค้าของคุณจำเป็นจะต้องมีเพื่อให้คุณทำงานให้เสร็จสมบูรณ์

คุณสามารถถามหาข้อมูลเหล่านี้ได้สามวิธี คือ:
  • ข้อความแบบอิสระ: สำหรับข้อความแบบอิสระ คุณสามารถเขียนข้อกำหนดของคุณและลูกค้าจะต้องตอบด้วยข้อความ (เช่น สัดส่วน น้ำหนัก หัวข้อเรียงความ)
  • ตัวเลือกแบบปรนัย: ตัวเลือกนี้ให้คุณถามคำถามและกำหนดคำตอบเป็นตัวเลือกซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ คุณจะต้องใส่คำตอบอย่างน้อยสองคำตอบและสามารถเพิ่มคำตอบได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม “+ Add Optional Answer”
  • แนบไฟล์: หากคุณจำเป็นจะต้องใช้ไฟล์จากลูกค้าในการทำงานให้สำเร็จ เลือกตัวเลือกนี้ คุณจะต้องกำหนดว่าไฟล์นี้ควรประกอบไปด้วยอะไรบ้างในหน้าต่างคำอธิบาย และลูกค้าของคุณก็จะได้รับการถามให้อัปโหลดไฟล์นี้เมื่อพวกเขาเลือกซื้อบริการของคุณ
คุณสามารถกำหนดข้อกำหนดกี่ข้อก็ได้โดยคลิกที่ปุ่ม “+ Add Another Requirement” ที่จะแสดงขึ้นมาหลังจากที่คุณส่งข้อกำหนดข้อแรก หากลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกำหนดของคุณหรือไม่ คุณควรเลือกเครื่องหมายที่กล่อง “Answer is Mandatory” ออก

ขั้นตอนที่ 8: เพิ่มคลังผลงานไปยังงานของคุณ

image11 6

คลังผลงานบนงานของคุณสามารถประกอบไปด้วยรูปภาพ วิดีโอ PDF หรือทั้งหมดนี้ก็ได้ ไฟล์ที่คุณเลือกใส่บนคลังผลงานนี้ควรจะมีความเกี่ยวข้องกับงานที่คุณให้บริการ

เคล็ดลับจากมืออาชีพ

พิจารณาเคล็ดลับต่อไปนี้เมื่อเลือกประเภทไฟล์ต่าง ๆ สำหรับคลังผลงานของคุณ:
  • รูปภาพงาน: บริการส่วนใหญ่จะมีรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับบริการนั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบริการออกแบบกราฟิกหรือการออกแบบเว็บ ถึงแม้ว่างานของคุณจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถ่ายภาพได้ง่าย ๆ เช่น งานเขียน แต่คุณก็ควรจะใส่รูปอยู่ดี เพียงเลือกรูปที่เกี่ยวข้องกับงานโดยไม่จำเป็นต้องเป็นตัวอย่างงานของคุณก็ได้ Fiverr ให้คุณใส่รูปภาพบนคลังผลงานได้สูงสุดสามรูป โดยคุณสามารถลากไปวางได้เลย โปรดแน่ใจว่าคุณไม่ได้ลอกรูปภาพของคุณอื่นมา มิฉะนั้นงานของคุณอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติ
  • วิดีโองาน: นอกจากงานในหมวดหมู่แอนิเมชันและวิดีโอ การใส่วิดีโองานเป็นทางเลือกที่ไม่ได้บังคับแม้ว่าจะมีประโยชน์ก็ตาม ตามที่ Fiverr บอก งานที่มีวิดีโอจะมีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อมากขึ้นสูงสุดถึง 200% และจะมี engagement rate ของผู้ใช้งานสูงขึ้น 40% วิดีโอต้องมีความยาวไม่เกิน 75 วินาทีและจะต้องไม่มีข้อมูลการติดต่อส่วนตัว
  • PDF งาน: ไฟล์ PDF เป็นรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับการอธิบายเพิ่มเติม โดยทั่วไปตัวเลือกนี้สงวนไว้สำหรับนักเขียนและคนอื่น ๆ ที่มีตัวอย่างงานที่ควรอยู่ในรูปแบบข้อความบนไฟล์ PDF โดย Fiverr อนุญาตให้แนบไฟล์ PDF ได้สองไฟล์ต่อคลังผลงาน

ขั้นตอนที่ 9: ประกาศงานของคุณ

image10 7

นี่คือขั้นตอนสุดท้าย – และเป็นขั้นตอนที่รวดเร็วที่สุด – ในการสร้างงานของคุณ เพียงคลิกที่ปุ่ม “Publish Gig” และคนอื่น ๆ ก็จะสามารถเห็นงานของคุณได้ เมื่อคุณประกาศงานของคุณแล้ว คุณสามารถโปรโมตงานของคุณบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook หรือ Twitter เพียงคลิกที่ลิงก์บนเว็บไซต์ ตามที่ Fiverr บอก งานที่ได้รับการโปรโมตบนโซเชียลมีเดียนั้นมีโอกาสขายได้สูงกว่าถึงสามเท่า ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี

image6 14

ใช้ประโยชน์จากงานของคุณให้มากที่สุด

ตอนนี้หลังจากที่คุณสร้างงานแรกบน Fiverr แล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนที่ยาก ซึ่งก็คือ การหาลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มนี้ (หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ) ต้องการดูรีวิวจากลูกค้ารายอื่น ๆ เพื่อที่พวกเขาจะดูคุณภาพงานของคุณได้ เมื่อคุณเพิ่งเริมต้น คุณไม่มีอะไรจะแสดงนอกจากตัวอย่างงานไม่กี่ชิ้นในคลังผลงานของคุณ

ดังนั้นตอนที่เพิ่งเริ่มต้นจึงควรตั้งราคาไม่แพงเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มราคาของคุณเมื่อคุณเริ่มตั้งตัวได้แล้ว นอกจากนี้คุณควรจะดู search engine optimization (SEO) สำหรับงานของคุณ เนื่องจากนี่เป็นอีกวิธีที่ดีในการหาลูกค้า กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งคือการใช้โปรไฟล์ของคุณเพื่อสร้างแบรนด์ของคุณเองเพื่อช่วยให้คุณกลายเป็นที่จดจำสำหรับผู้ที่เลื่อนดู Fiverr อย่างสม่ำเสมอ


วิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างงานแรกก็คือ ซื้องานบน Fiverr โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง $5 และคุณสามารถซื้อสิ่งที่คุณต้องการได้ โดย – งานรูปภาพ Fiverr เพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพ หรือการหาคนมา ตรวจทานเนื้อหางานของคุณเป็นสองตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากการดูเป็นมืออาชีพและหาลูกค้าจาก Fiverr ได้มากขึ้นแล้ว เมื่อคุณซื้องานบน Fiverr คุณจะเข้าใจกระบวนการ 100% ว่า – คนซื้อจะดูที่รูปภาพ thumbnail อย่างไรบ้างเพื่อเลือกว่าจะซื้องานไหน มีการแสดงราคาอย่างไร และกระบวนการสั่งซื้อเป็นอย่างไร นี่จะช่วยการันตีว่างานบน Fiverr ของคุณจะดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะคุณจะทำให้งานของคุณน่าดึงดูดสำหรับลูกค้าและทำให้กระบวนการซื้องานของคุณง่ายเมื่อเสร็จแล้วก็เริ่มงานแรกของคุณเลย!
เมื่อคุณทำตามเคล็ดลับเหล่านี้และหาข้อมูลเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในฐานะฟรีแลนซ์ และดูฟอรัมบน Fiverr เพื่อดูคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ คุณจะสามารถสร้างงานที่จะประสบความสำเร็จบน Fiverr หรือ แพลตฟอร์มงานฟรีแลนซ์ ใด ๆ ก็ตามที่คุณเลือก!

อ่านบทความนี้
4.5 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 12 ผู้ใช้
คุณลงคะแนนแล้ว! ย้อนกลับ
ต้องระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ Maximal length of comment is equal 80000 chars ความยาวน้อยที่สุดของความคิดเห็นเท่ากับ 10 ตัวอักษร
มีความคิดเห็นอย่างไร
ตอบกลับ
ดูการตอบกลับของ %s
View %s reply
เราตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ใช้จริงเช่นคุณ เราดีใจที่คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ - เราจะขอบคุณถ้าคุณแบ่งปันให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับมัน
Popup final window
แบ่งปันโพสต์บล็อกนี้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานในตอนนี้:

We check all comments within 48 hours to make sure they're from real users like you. In the meantime, you can share your comment with others to let more people know what you think.

คุณจะได้รับเคล็ดลับและคำแนะนำที่น่าสนใจฬในเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณและบรรลุเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ!

เราดีใจมากที่คุณ ��อบ

แบ่งปันให้กับเพื่อนของคุณ!

หรือรีวิวพวกเราได้บน

1440295
50
5000
91458
แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดimage

รับความช่วยเหลือที่คุณต้องการเพียง $5!

ค้นหาฟรรีแลนซ์ที่เหมาะกับโปรเจคของคุณ